posttoday

พม. โดย สค. เร่งสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี

26 มกราคม 2561

ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค. 61 เวลา 09.00 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (อธิบดี สค.)...

 

ในวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค. 61 เวลา 09.00 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (อธิบดี สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างแกนนำเครือข่ายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี ครั้งที่ 2 และบรรยายพิเศษ เรื่อง : แนวทางการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีตามภารกิจของ สค. โดยมี นายวิศิษฐ์ ผลดก ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ กล่าวรายงาน ณ โรงแรมเดอะรอยัลซิตี้ กรุงเทพฯ

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการค้าประเวณีมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติ ทั้งในด้านการคุกคามทางเพศ การบั่นทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองและศีลธรรม จรรยาที่ดีงาม อันเกิดเป็นความเดือดร้อนและส่งผลเสียหายต่อความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงของชาติ จนก้าวไปสู่การค้ามนุษย์ที่เป็นปัญหาระดับประเทศและมีผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือและเกียรติภูมิของประเทศไทยในสายตาของนานาประเทศ

นายเลิศปัญญากล่าวต่ออีกว่า ถึงแม้ว่าในปัจจุบันได้มีการนำพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาเป็นหลักในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี ซึ่งจัดเป็นรูปแบบหนึ่งของการค้ามนุษย์ก็ตาม แต่เมื่อลงในรายละเอียดก็ยังมีความแตกต่างกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดขึ้น โดยมุ่งช่วยเหลือผู้ค้าประเวณี ซึ่งมองว่าเป็นผู้ด้อยโอกาส ควรได้รับการดูแล ช่วยเหลือ คุ้มครองและพัฒนาอาชีพ ตลอดจนได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต รวมถึงการคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่อาจถูกล่อลวงหรือชักพาไปเพื่อการค้าประเวณี มีการกำหนดโทษผู้กระทำผิด และผู้โฆษณาชักชวนด้วยก็ตาม

"สค. ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของทุกหน่วยงาน รวมถึงองค์กรประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ว่าสามารถรวมตัวเป็นแกนนำสำคัญในการเชื่อมต่อภารกิจของ สค. ให้บรรลุตามเป้าหมายได้ จึงจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการสร้างแกนนำเครือข่ายเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณีขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ปฏิบัติงานของหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี และร่วมกันเป็นพลังขับเคลื่อนงานไปในทิศทางเดียวกันและเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนสามารถสัมฤทธิ์ผลตามนโยบายรัฐบาลและแผนชาติที่กำหนดไว้ด้วย" นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย