posttoday

จากยอดดอยสู่บ้านเรา

04 พฤศจิกายน 2560

ชื่นใจไปกับวัตถุดิบจากโครงการหลวง น้ำปั่น Valentine Lychee Rose


บางครั้งการท่องเที่ยวเดินทางกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเชฟต่างๆ ทั่วโลก และไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทาง Culinary ที่เก่งเป็นเลิศ ถึงจะเอาการท่องเที่ยวกลับมาเป็นแรงบันดาลใจให้ทำอาหารรสชาติแปลกใหม่ไม่จำเจได้ จะกลายเป็นโมเมนต์ของการสร้างเทรนด์ 

ยกตัวอย่างเชฟชื่อดังอย่าง ปิแอร์ แอร์กเม่ ที่มี Patisserie อยู่หลายแห่งในโลก ไม่เว้นแต่ร้านขายขนมมาการงในกรุงเทพฯ หลายปีก่อนเขาเป็นผู้บุกเบิกสร้างเทรนด์การผสมผสานวัตถุดิบหลากหลายจนกลายเป็นรสชาติใหม่ ที่ยังไม่มีใครจับมารวมกันจนดังก้องโลก อย่างรส “Ispahan” ที่เริ่มขึ้นก็ทำให้มาการงของคุณปิแอร์กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก จนบัดนี้ก็ยังเป็นรสที่ขายดีที่สุดในร้านแถบยุโรป ปัจจุบันคุณปิแอร์ทำเป็น Collection Ispahan เลย

มีขนมอีกหลายชนิดที่มีกลิ่นกุหลาบ หรือ Rose Water ที่รวมเข้ากับราสพ์เบอร์รี่และลิ้นจี่เข้าไป ซึ่งคุณปิแอร์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าได้แรงบันดาลใจจากเมืองอิสฟาฮานในอิหร่าน ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายเปอร์เซีย โด่งดังเรื่องของน้ำกุหลาบที่มาจากพันธุ์ Rosa Ispahan ที่ปลูกเพื่อสกัด Rose Water ที่โด่งดังไปทุกวงการตั้งแต่น้ำหอม เครื่องสำอาง และอาหาร 

เดินเล่นในร้านโครงการหลวงครั้งนี้ ได้ผลิตภัณฑ์ทาขนมปัง “กลีบกุหลาบ” ติดมือกลับมา เพราะนึกไปถึงรสชาติความหอมโดดเด่นของกุหลาบที่จางๆ ไปกำลังดีกับความสดชื่นของลิ้นจี่ มีรสเปรี้ยวอมหวานของราสพ์เบอร์รี่ที่ทำให้ไม่เลี่ยนจนลิ้นไทยกินไม่ได้

 

จากยอดดอยสู่บ้านเรา

 

ผู้เขียนขอหยิบจับเอาความเป็น Ispahan มาใช้เป็นเครื่องดื่มเย็นชื่นใจบ้าง ขอปรับจากราสพ์เบอร์รี่เป็นสตรอเบอร์รี่แทน เพราะมั่นใจในรสชาติความหอมอร่อยของสตรอเบอร์รี่พันธุ์พระราชทานของโครงการหลวง ที่กินสดๆ ก็อร่อย แถมยังมีสินค้าจากสตรอเบอร์รี่อีกหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นน้ำสตรอเบอร์รี่ ผลิตภัณฑ์ทาขนมปัง ผลสตรอเบอร์รี่อบแห้ง แต่เพื่อให้รสชาติเข้มข้นและสีสันสวยงามโดยไม่ต้องปรุงแต่งมาก และเรียกว่าไม่ต้องเติมน้ำตาล ทำน้ำเชื่อมเพิ่มเลย เรียกว่าสูตรนี้สูตรเดียว จบและอร่อยได้ด้วยผลิตภัณฑ์จากร้านโครงการหลวงทั้งหมด

น้ำปั่นรสสตรอเบอร์รี่ของเราทำง่ายๆ ไม่ยุ่งยากแค่มองหาตรา “ดอยคำ” แล้วเลือกลิ้นจี่กระป๋องพร้อมกับสตรอเบอร์รี่กระป๋องมาด้วย ปั่นกินเองไม่ต้องคำนึงต้นทุน ใส่ผลไม้ลงไปเยอะๆ ให้ได้กลิ่นรสเต็มที่ แต่ความอร่อยไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่ลิ้นจี่และสตรอเบอร์รี่เท่านั้น ผู้เขียนเพิ่มความเป็น Ispahan เต็มรูปแบบด้วยกลิ่นกุหลาบจากผลิตภัณฑ์ทาขนมปังกลีบกุหลาบ ที่มีความหอมกำลังพอดี และมีความเป็นเจลลี่ หยุ่นๆ นิดๆ เมื่อเติมลงในเครื่องดื่มปั่น พอดูดหรือตักขึ้นมา รสชาติหวานเย็นชื่นใจจากผลไม้ทั้งสองชนิด เมื่อลิ้นมาจากเนื้อๆ แล้วค่อยๆ เอาลิ้นดุนๆ จึงได้กลิ่นกุหลาบที่พร้อมกำซาบอยู่ทั่วในลำคอ สดชื่น หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

ความหอมของผลิตภัณฑ์ทาขนมปังกลีบกุหลาบตราดอยคำนั้น ได้คุยกับผู้รู้ท่านเล่าให้ฟังว่า ทำมาจากกุหลาบพันธุ์พิเศษที่ปลูกอยู่ที่โรงงานแปรรูปที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ชื่อพันธุ์เก๋ไก๋เข้ากับความสวยและความหอมของกุหลาบว่า พันธุ์วาเลนไทน์ ซึ่งกุหลาบสีแดงสดพันธุ์นี้ทนทานต่อสภาพอากาศในเมืองไทย กุหลาบเธออยู่ได้ และอยู่ได้ดีเสียจนเก็บเกี่ยวได้มาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

ถ้าคุณผู้อ่านเปิดขวดชิมความหอมแล้ว ต้องบอกว่าเป็นเพราะความพิถีพิถันในการเก็บเกี่ยว ที่ต้องปล่อยให้กุหลาบวาเลนไทน์นั้น มีความสุขกับความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ในเวลากลางวัน และเจอความเย็นในตอนกลางคืน ยามเช้าเท่านั้นที่จะเป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่โรงแปรรูปเลือกเก็บ ยามที่กุหลาบแย้มแสงแรกของวัน เด็ดขึ้นมาพร้อมๆ กับน้ำค้างในดอกที่เพิ่งบาน ความแรกแย้มนี่แหละที่เป็นแหล่งความหอมที่แท้จริง

นี่จึงเป็นที่มาของชื่อเครื่องดื่มแบบปั่นเย็นชื่นใจในฉบับนี้ว่า Valentine Lychee Rose ที่หอมอร่อยไม่แพ้ Ispahan เลย &O5532;

 

จากยอดดอยสู่บ้านเรา