posttoday

กฟน. จัดงาน Together for Sustainability “ร่วมกัน ก้าวไกล สังคมไทยยั่งยืน”

29 เมษายน 2559

เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการดำเนินงานระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของการไฟฟ้านครหลวง

วันนี้ (27 เมษายน 2559) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แสดงปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ระบบโครงสร้างพื้นฐานก้าวไกล สู่ใจประชารัฐ” ในงาน Together for Sustainability “ร่วมกัน ก้าวไกล สังคมไทยยั่งยืน” ซึ่งการไฟฟ้านครหลวงได้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางการดำเนินงานระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของการไฟฟ้านครหลวง ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ

กฟน. จัดงาน Together for Sustainability “ร่วมกัน ก้าวไกล สังคมไทยยั่งยืน”

นายสมชาย โรจน์รุ่งวศินกุล ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงเปิดเผยว่า การจัดงาน Together for Sustainability ครั้งนี้ การไฟฟ้านครหลวง มีความตั้งใจที่จะสื่อสารเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น เพื่อร่วมหาแนวทางกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ กฟน.ทุกกลุ่ม ได้แก่ ผู้กำกับนโยบาย คู่ความร่วมมือ คู่ค้า และผู้ส่งมอบหลัก ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนทิศทางการดำเนินงานขององค์กร ผลักดันเชิงนโยบายต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ ความร่วมมือกับผู้จัดส่งไฟฟ้า ในเรื่องความมั่นคงของระบบไฟฟ้าหรือ Reliability ในระยะยาวและการเตรียมพร้อมต่อภาวะฉุกเฉิน ความร่วมมือกับผู้ส่งมอบอุปกรณ์จำหน่ายไฟฟ้าเรื่องการจัดหาหรือพัฒนานวัตกรรมร่วมกัน เพื่อให้ได้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ประสิทธิภาพและที่สำคัญคือกระบวนการผลิตอุปกรณ์นั้นๆ ต้องคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือกับพันธมิตรในการให้บริการและเพิ่มช่องทางชำระค่าไฟฟ้า ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนและหาแนวทางให้ก่อสร้างระบบไฟฟ้าทำได้สำเร็จรวดเร็วและรบกวนประชาชนน้อยที่สุด สุดท้ายความร่วมมือกับผู้กำกับนโยบาย ที่จะมีส่วนร่วมผลักดันเชิงนโยบายให้เอื้อต่อการก้าวไปข้างหน้า และเติบโตอย่างยั่งยืน

กฟน. จัดงาน Together for Sustainability “ร่วมกัน ก้าวไกล สังคมไทยยั่งยืน”

ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงกล่าวต่อไปว่า ในการบูรณาการงานด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการ ตามกรอบ ESG นั้น เป็นแนวทางที่ทั่วโลกยอมรับ รวมถึงหน่วยงานด้านธุรกิจไฟฟ้าระดับแนวหน้าจากหลายประเทศ ก็นำมาเป็นมาตรฐานในการดำเนินงาน โดยกรอบ ESG ที่กฟน.นำมาใช้นั้น ได้พิจารณาถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่องค์กรได้รับควบคู่กันไปด้วย ซึ่งจะช่วยให้การไฟฟ้านครหลวงพร้อมเป็นองค์กรชั้นนำด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ที่ร่วมขับเคลื่อนสังคมไทย ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินงานด้านระบบไฟฟ้า ด้านงานบริการ ด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป