posttoday

“วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าประเทศ มั่นใจศักยภาพ เหมาซื้อคอนโดอาคารแรก ล็อตใหญ่กว่า 100 ยูนิต

14 ธันวาคม 2558

คาดการณ์ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2561

 

นักลงทุนสิงคโปร์ เหมาซื้อห้องชุดโครงการ “วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท” ซึ่งตั้ง อยู่ในพื้นที่โครงการมิกซ์ยูสสุดล้ำ “วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” จำนวนกว่า 100 ยูนิต เตรียมทำตลาดขายต่อใน 5 ประเทศ
ตอกย้ำความสำเร็จของการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ครั้งแรกในประเทศไทย เตรียมปิดการขายคอนโดมิเนียมอาคารแรกอย่างรวดเร็วภายในสิ้นปีนี้ และวางแผนเปิดขายอาคารสองช่วงต้นปีหน้า

กรุงเทพ (14 ธันวาคม 2558) – MQDC แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียมและโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพระดับลักชัวรี่ เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัยแบรนด์วิสซ์ดอม โครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่อาศัย และโครงการมิกซ์ยูสคุณภาพ ประกาศอัพเดทความคืบหน้าโครงการวิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน โครงการมิกซ์ยูสสุดล้ำที่จะกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิทว่า โครงการมีความคืบหน้าไปตามแผนที่วางไว้และได้รับการตอบรับจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างดีเกินคาด ล่าสุดมีนักลงทุนต่างชาติเหมาซื้อห้องชุดในคอนโดมิเนียมอาคารแรกไปกว่า 100 ยูนิต ทำให้ปัจจุบันขายไปแล้วมากกว่า 90%

“วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าประเทศ มั่นใจศักยภาพ เหมาซื้อคอนโดอาคารแรก ล็อตใหญ่กว่า 100 ยูนิต

นายสุทธา เรืองชัยไพบูลย์ ผู้อำนวยการบริหาร MQDC กล่าวว่า “โครงการ‘วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน’ ได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด และกำลังเป็นที่สนใจอย่างมากทั้งในกลุ่มลูกค้าทั่วไปและนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่า ภายหลังจากที่ประกาศเปิดตัวโครงการอย่างยิ่งใหญ่ไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชูจุดเด่นเรื่องแนวคิด ‘The Great Good Place’ ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผสมผสานอย่างลงตัวที่สุด ระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ ส่งผลให้ ‘วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท’ ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยจำนวน 673 ยูนิต อาคารแรกในพื้นที่โครงการ ‘วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน’ ที่เริ่มเปิดขายไปก่อนหน้าประกาศเปิดตัวโครงการ ‘วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน’ ไม่นาน มียอดขายพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในทันที โดยขณะนี้ ‘วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท’ ขายไปแล้วมากกว่า 90% มีสัดส่วนลูกค้าเป็นคนไทย 80% และเป็นต่างชาติ 20% เหลือห้องชุดพักอาศัยอีกเพียง 30 ยูนิตสุดท้ายเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดการขายคอนโดมิเนียมอาคารแรกนี้ได้ทั้งหมด ภายในสิ้นปี 2558 นี้ และวางแผนเตรียมเปิดการขายคอนโดมิเนียมอาคารที่สองในพื้นที่โครงการ ‘วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน’ ในช่วงต้นปีหน้า”

ตอกย้ำความสำเร็จตามเป้าหมายของโครงการที่มุ่งเน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่มองหาโครงการที่พักอาศัยมาตรฐานระดับโลก โดยล่าสุดนักลงทุนสิงคโปร์มั่นใจในศักยภาพของโครงการ เหมาซื้อห้องชุดพักอาศัยในอาคารแรกนี้ไปล็อตใหญ่ จำนวนกว่า 100 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนกว่า 530 ล้านบาท เพื่อนำไปทำตลาดและขายต่อใน 5 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, จีน, ไต้หวัน, และมาเลเซีย ซึ่งนักลงทุนสิงคโปร์รายนี้ได้แสดงความมั่นใจว่าจะสามารถขายห้องชุดพักอาศัยกว่า 100 ยูนิตนี้ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้

“วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน” ดึงนักลงทุนต่างชาติเข้าประเทศ มั่นใจศักยภาพ เหมาซื้อคอนโดอาคารแรก ล็อตใหญ่กว่า 100 ยูนิต

“ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนสิงคโปร์มั่นใจในศักยภาพของโครงการ ‘วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน’ อยู่ที่ จุดแข็งที่โดดเด่นและแตกต่าง ทั้งเรื่องการพัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด ‘The Great Good Place’ ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นแนวคิดที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในเมืองชั้นนำต่างๆ ของโลก การทำงานร่วมกับที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปของโลก ร่วมกันเนรมิตโครงการมาตรฐานระดับโลกที่เพียบพร้อมไปด้วยพื้นที่พักโครงการที่อยู่อาศัย พื้นที่สำนักงาน พื้นที่ร้านค้าปลีก และหนึ่งในสปอร์ตคลับใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริหารงานอย่างมืออาชีพโดยผู้บริหารคลับที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และการเป็นสังคมดิจิตอลที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย” นายสุทธา กล่าว

“สิ่งที่น่าสนใจคือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ประเภทคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในโครงการมิกซ์ยูสระดับแลนด์มาร์คกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่มีไลฟ์สไตล์และมีความพิถีพิถันมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เราตระหนักดีว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นเรื่องการนำเสนอและส่งมอบไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้คน ไม่ใช่เป็นแค่การก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป” นายสุทธา กล่าว

“วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท” ขณะนี้ผ่าน EIA เรียบร้อย และกำลังเริ่มดำเนินการก่อสร้าง โดยคาดการณ์ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2561