“สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำสร้างประสบการณ์ระดับโลกที่แตกต่างและตรงใจ

ผงาดครองใจนักช้อปทั่วโลก

• สยามพารากอน ประกาศย้ำความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จ ในการเป็น “World Class Shopping Destination” ศูนย์กลางการช้อปปิ้ง ความบันเทิง ความรู้ และสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งสำคัญ พร้อมนำเสนอ “World Class Experience” สุดยอดประสบการณ์ระดับโลกที่แตกต่างและตรงใจลูกค้าในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง และครอบคลุมแบบ 360 องศา ครองใจนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก

• ฉลอง 9 ปีแห่งความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ ทุ่มงบประมาณกว่า 90 ล้านบาท อัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และโปรโมชั่นแคมเปญสุดพิเศษ พร้อมผนึกกำลังพันธมิตรและร้านค้าแบรนด์ดังภายในศูนย์ฯ จัดงานเฉลิมฉลองข้ามปีกับเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้สุดอลังการ พร้อมด้วยกิจกรรม และการแสดงระดับเวิลด์คลาสอีกคับคั่ง

นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้บริหารสายงานอาวุโสการตลาด บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า นับเป็นเวลากว่า 9 ปี แห่งความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้การบริหารงานของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ที่ครองความเป็น “World Class Shopping Destination” มาอย่างต่อเนื่อง โดยเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “World Class Experience” หรือสุดยอดประสบการณ์ระดับโลกที่แตกต่างและตรงใจให้แก่ลูกค้าอย่างครบวงจร ครอบคลุมแบบ 360 องศามาโดยตลอด ทั้งประเภทสินค้าแบรนด์ชั้นนำ และบริการระดับเวิลด์คลาสที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว ศูนย์กลางความรู้ และบันเทิง มารวบรวมไว้มากที่สุดภายในศูนย์การค้าแห่งเดียว เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการเปิดตัวศูนย์การค้าสยามพารากอนจวบจนปัจจุบัน เป็นเวลา 9 ปีเต็ม ที่เราได้ปฏิวัติวงการศูนย์การค้าไทยพร้อมทั้งสร้างสถิติใหม่ๆ สร้างทอล์คออฟเดอะทาวน์ขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้าระดับไฮเอนท์ที่รวบรวมแบรนด์ดังชั้นนำระดับโลกและชั้นนำของไทยไว้มากที่สุด มีจำนวนร้านค้าที่มาเปิดร้านต้นแบบหรือแฟลกชิปสโตร์ (Flagship store) แห่งแรกในเมืองไทยมากที่สุด และแบรนด์ต่างๆ นำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียว และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาพลักษณ์และช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจภาครวมของประเทศไทย ในฐานะศูนย์กลางแห่งการช้อปปิ้งและการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน”

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สยามพารากอน ได้สร้างมิติใหม่แห่งปรากฏการณ์ของการช้อปปิ้งระดับโลก       ซึ่งตอบรับวิถีชีวิตที่มีรสนิยมของนักช้อปจากทั่วโลก ทำให้สามารถคว้ารางวัลจากหลายสถาบัน ทั้งในและต่างประเทศ มาครอง อาทิ ในปีที่ผ่านมา สยามพารากอน ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีคนมาถ่ายภาพและแชร์ผ่านอินสตาแกรม (instragram) มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในโลก แซงหน้า ไทม์สแควร์ ของมหานครนิวยอร์ก และ

“สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำ"

ดิสนีย์แลนด์ ที่แคลิฟอร์เนีย ขาดลอย ซึ่งปัจจุบัน Facebook และ Instagram ของสยามพารากอน มียอด follower ทั้งสิ้นกว่า 400,000 คน โดยเฉลี่ยจำนวน fanpage จะเพิ่มขึ้นเดือนละ 10,000 คน ทำให้คาดการณ์ว่าในปลายปีหน้า Facebook และ Instagram ของสยามพารากอนจะมียอด follower ถึง 500,000 คน และล่าสุด ปี 2014 ก็คว้ารางวัล Brand of the Year 2014 สุดยอดแบรนด์ของประเทศไทย จาก Superbrand ที่ได้รับการโหวตจากผู้บริโภคด้วยคะแนนสูงสุด และอีกมากมาย

ปัจจุบันสยามพารากอนมีปริมาณลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยราว 200,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นลูกค้าชาวไทยประมาณ 60%และชาวต่างชาติ 40% ซึ่งลูกค้าเหล่านี้เดินทางมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก อาทิ จีน รัสเซีย ฮ่องกง อินเดีย ไต้หวัน เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น รวมถึงจากสหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมัน การ์ตา และ บาร์เรน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูงโดยเฉพาะประเทศ จีน ฮ่องกง รัสเซีย และกลุ่มประเทศจากตะวันออกกลาง
นางมยุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ สยามพารากอน เดินหน้าชูกลยุทธ์ Global Partner ตอกย้ำความเป็น World Class จับมือกับพันธมิตรระดับเวิลด์คลาสต่างประเทศ ผ่านกิจกรรมทางการตลาดมากมาย โดยรูปแบบการตลาดจะเจาะจงไปที่องค์ประกอบต่างๆ ที่เป็นที่สุดของสยามพารากอน อาทิ การเป็นมหานครแห่งแฟชั่นระดับโลก (World Fashion Capital), การเป็นศูนย์กลางของนาฬิกาและเครื่องประดับ (World Class Watch & Jewelry Centre), การเป็นอาณาจักรศูนย์รวม Super Car และไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส (World of Lifestyle), การเป็นโลกแห่งการเรียนรู้และความบันเทิงระดับโลก (Edutainment & Global Entertainment Phenomenon) เป็นต้น ประกอบด้วย

• Customer Experience Management (CEM): รูปแบบการบริการระดับซุปเปอร์เซอร์วิส และโปรแกรมลูกค้าสัมพันธ์ โดยเน้นเข้าถึงไลฟสไตล์ของลูกค้าแบบเจาะจงเฉพาะกลุ่ม มอบการบริการลูกค้าและเสริมสร้างประสบการณ์แบบพิเศษ พร้อมทั้งการดูแลเอาใจใส่อย่างต่อเนื่อง พร้อมสิทธิพิเศษผ่านกิจกรรมระดับเวิลด์คลาสต่างๆ ให้ลูกค้าไปเปิดประสบการณ์ใหม่ในหลากหลายแง่มุมแบบ Customize and Tailor Made เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อที่เป็นลูกค้าประจำกลับมาจับจ่ายอย่างต่อเนื่อง

• World  Wide strategic alliance การสานความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ทั้งกลุ่มเดิมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น รวมทั้งการผูกความสัมพันธ์กับพันธมิตรรายใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมไปยังกลุ่มลูกค้าทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากปีที่ผ่านมาที่เราได้เริ่มทำ Global Privilege Partnership Campaign ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำในเอเชีย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่าง               ดีเยี่ยม สร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างประเทศ เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้แก่ลูกค้า และสร้างกลไกการกระตุ้นยอดใช้จ่ายจากต่างประเทศสู่ไทยให้มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

• Global tourist Top of Mind เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้แก่ลูกค้า และสร้างกลไกการกระตุ้นยอดใช้จ่ายจากต่างประเทศสู่ไทยให้มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับตัวเลขล่าสุดในปีนี้ กรุงเทพมหานคร ได้รับตำแหน่งชนะเลิศเป็นอันดับหนึ่งในเอเชีย ว่าเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 16.42 ล้านคน และเป็นอันดับ 2

“สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำ"

รองจาก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากข้อมูลผลสำรวจและจัดอันดับ 20 เมืองท่องเที่ยวทั่วโลกของ Master Card Global Destination Cities Index 2014 ขณะเดียวกัน สยามพารากอน ยังคงครองตำแหน่ง “World Class Shopping Destination” หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่บรรดานักท่องเที่ยว           ทั่วโลกนิยมเดินทางมาร่วมสัมผัสสุดยอดประสบการณ์ช้อปปิ้งระดับโลก และตื่นเต้นไปกับการนำเสนอที่สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมสัมผัสกับสถานที่อันยอดเยี่ยมและเหนือระดับ ในฐานะเป็น The Pride of Bangkok “ที่สุดแห่งความภาคภูมิของกรุงเทพมหานคร”

และที่สำคัญสยามพารากอนเดินหน้าทำ Fully Integrated Digital อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตามวิถีคนเมืองที่เกาะติดตามโลกแห่งเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งเรามองว่าการขยายตัวของลูกค้ากลุ่มนี้จะยิ่งเติบโตใน 5-10 ปี ข้างหน้า ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ปัจจุบันมีการเปิดรับทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ดังนั้นเราจึงต้องการที่จะเติมเต็มการบริการและประสบการณ์ด้านการสื่อสารที่แตกต่างไม่เหมือนใคร โดยผสานเทคโนโลยีต่างๆ ในยุคดิจิตอลผ่านกิจกรรมทางการตลาดทุกรูปแบบ เพื่อความสะดวกสบายและเติมเต็มไลฟสไตล์ของกลุ่มลูกค้า ดังจะเห็นได้จากงาน BIFW 2014 ที่เพิ่งจัดไป ซึ่งได้สร้าง   มิติใหม่แห่งปรากฏการณ์แฟชั่นระดับโลกครั้งยิ่งใหญ่แห่งเอเชีย โดยได้ร่วมมือกับ Digital Fashion Week จากสิงคโปร์ และมี blogger จากประเทศต่างๆ มาร่วมงานมากมาย และเตรียมรุกทำการตลาดดิจิตอลทุกรูปแบบ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ และตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

เฉลิมฉลอง 9 ปีแห่งความสำเร็จ สู่ความยิ่งใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

  สยามพารากอน ทุ่มงบประมาณกว่า 90 ล้านบาท จับมือกับพันธมิตรและร้านค้าชั้นนำภายในศูนย์ฯ เตรียมจัดงาน “Siam Paragon 9th Anniversary –The Magical Phenomenon” อัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด และกระหน่ำโปรโมชั่นแคมเปญสุดพิเศษ เฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ 9 ปีของสยามพารากอน เพื่อมอบเป็นของขวัญ และต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ด้วยการจัดเอ็กซ์คลูซีฟปาร์ตี้สุดอลังการกับ House of Walker ครั้งแรกในเอเชีย และตระการตากับศิลปินระดับโลกที่อิมพอร์ตมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ พร้อมจัดกิจกรรมไฮไลท์และการแสดงระดับเวิลด์คลาส กับ 9 ความพิเศษที่เป็นที่สุดของสยามพารากอน ซึ่งมั่นใจว่างานครั้งนี้จะเป็นปาร์ตี้ระดับโลกครั้งใหญ่แห่งปีที่ทุกคนรอคอย และสามารถสร้างความประทับใจให้ทุกคนอย่างแน่นอน ได้แก่

• World of Kids กับกิจกรรมระดับโลก “กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส: เดอะ ลาจเจสท แกทเธอริ่ง ออฟ ซานต้า เอลฟ์ส” (Guinness World Records: The Largest Gathering of Santa’s Elves) ในวันที่                25 พฤศจิกายน 2557 ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยกับการทำลายสถิติโลกด้วยการรวมตัวคนที่แต่งกายเป็นเอลฟ์มากที่สุดในโลก ที่พาร์ค พารากอน ซึ่งจะเป็นการทุบสถิติโลกของกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ที่ก่อนหน้านี้ได้ทำไว้ที่ประเทศอังกฤษ จำนวน 1,110 คน  เมื่อปี พ.ศ. 2556

• World of ART ที่ได้รับเกียรติจาก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ให้เกียรติร่วมจัดแสดงงานนิทรรศการ “พุทธศิลป์แห่งรัชกาลที่ 9” ที่รวบรวมผลงานแนวพุทธศิลป์ร่วมสมัยประจำรัชกาลที่ 9 โดยนำไฮไลท์
ผลงานพระพุทธรูปหล่อด้วยทองสำริด มีความสูง 3 เมตร ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก และไม่เคยจัดแสดงที่ใด            มาก่อน จะนำมาจัดแสดงให้ชมเป็นครั้งแรก อีกทั้งผลงานประติมากรรมและจิตรกรรมที่หาชมได้ยากอาทิ ผลงานพระพุทธรูป เหรียญบูชาต่างๆ ที่ถูกสร้างขึ้นจากทองคำ รวมกว่า 100 องค์ และได้คัดเลือกเหรียญที่มีแต่เฉพาะหมายเลข 9 มาจัดแสดงเท่านั้น ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท เพื่อร่วมฉลองในโอกาสครบรอบ 9 ปีของสยามพารากอน ซึ่งจะจัดให้มีงานเปิดนิทรรศการดังกล่าว ในวันที่ 4 ธันวาคม 2557

“สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำ"

• World of Fashion & Luxury กับ “Sirivannavari Bangkok Limited Edition for Siam Paragon 9 Years Anniversary” ผลงานผ้าพันคอทรงออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรี             นารีรัตน์ ทรงมีพระกรุณาธิคุณอันสูงสุด ทรงพระดำริสร้างสรรค์ขึ้น และได้ประทานภาพลายกราฟฟิก 9 แบบ 9 ลาย เพื่อใช้ในการผลิต ในโอกาสครบรอบ 9 ปีของสยามพารากอน และพบกับนิทรรศการแสดงผลงาน ระหว่างวันที่ 9 – 14 ธันวาคม 2557

• World of Watch & Jewelry กับผลงานเครื่องประดับสุดหรู “An Extraordinary Nine Gem-Stones By Blue River” สร้อยคอมณีนพเก้า ประกอบด้วยอัญมณีมงคล 9 ชนิด ได้แก่ ทับทิม, โกเมน, บุษราคัม,ไพลิน, มรกต, มุกดาหาร, ไพฑูรย์, เพทาย และเพชรแท้ จาก บลู ริเวอร์ (Blue River) ตั้งใจออกแบบและจัดทำขึ้นมาอย่างวิจิตรบรรจง เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 9 ปี สยามพารากอนโดยเฉพาะ

• World of Beauty พบกับ Birgit Moertl ศิลปินบอดี้เพ้นท์ชื่อดังระดับโลก การันตีด้วยตำแหน่งแชมป์ “World Champion in Special Effect Painting 2 ปีซ้อน ที่จะมาสร้างศิลปะแห่งสีสันบนเรือนร่าง

• World of Auto สัมผัสกับสุดยอดยนตรกรรมอันหรูหราสัญชาติอังกฤษ จากค่ายมินิ กับ Mini F56 คันแรกของโลก ที่โดดเด่นด้วยงานดีไซน์มีเอกลักษณ์ บ่งบอกความเป็นไทย จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 9 ปีสยามพารากอน

• World of Lifestyle อิ่มเอมไปกับมนต์เสน่ห์ของเครื่องหอม Room Spray จาก VUUDH by HARNN                  ที่สร้างสรรค์กลิ่นใหม่ขึ้นเป็นพิเศษ “Scent of Pride” ที่ออกแบบมาเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 9 ปี สยามพารากอนเท่านั้น

• World of Dining  ลิ้มรส 9 เมนูพิเศษสุดที่รังสรรค์จาก World Class Ingredients จาก 9 ร้านอาหารชั้นนำในสยามพารากอน ซึ่งเมนูสุดพิเศษเหล่านี้ทั้ง 9 ร้านต่างตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองให้กับสยามพารากอนและจะมีจำหน่ายระหว่างวันที่ 10 – 31 ธันวาคม 2557 นี้เท่านั้น

• World of Entertainment กับสุดยอดศิลปินดังระดับโลก ที่จะบินตรงมาร่วมโชว์เป็นครั้งแรกในเมืองไทย เพื่องานครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Natasha Bedingfield นักร้องสาวเสียงดีราชินีเพลงป๊อปชื่อดังชาวอังกฤษ World Famous Pop Princess และ Martin Taylor & Alison Burns คู่ดูโอ้ศิลปินกีต้าร์และนักแต่งเพลงระดับกูรูที่เคยร่วมโชว์ในงานอภิเษกสมรส Prince William & Princess Kate ซึ่งจะจัดแสดงมินิคอนเสิร์ตในวันที่ 9 และ 10 ธันวาคมนี้

พร้อมกันนี้ เพื่อร่วมฉลองในโอกาสพิเศษนี้แบบข้ามปี ศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้จับมือกับ จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ (Johnnie Walker) แบรนด์สก็อตวิสกี้ชั้นนำระดับโลก ร่วมเปิดปรากฏการณ์พิเศษในโลกของนักบุกเบิกที่เต็มไปด้วยสุนทรียะแห่งรสชาติครั้งแรกในประเทศไทยกับ House of Walker @ Parc Paragon ตระการตากับการเนรมิตคฤหาสน์หลังใหญ่อันเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังมาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษในแบบ 4D Sensory ที่กระตุ้นทุกประสาทสัมผัสการรับรู้ บุกเบิกนิยามใหม่แห่งการเฉลิมฉลองในแบบเวิลด์คลาสที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 10 ธันวาคม – 3 มกราคม 2558 และร่วมเฉลิมฉลองข้ามปีกับต้นคริสต์มาส และบรรยากาศของแสงสีเสียง และโชว์ Mapping ที่ตื่นตาตื่นใจอลังการทุกๆ ชั่วโมง ของทุกวัน

  “สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำ"

นอกจากนี้ สยาม โอเชี่ยน เวิร์ล อุทยานสัตว์น้ำระดับโลก ยังได้ก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญภายใต้ชื่อใหม่ “ซีไลฟ์ แบงคอก โอเชี่ยน เวิร์ล” (Sea Life Bangkok Ocen World) ที่มาพร้อมความตื่นตาตื่นใจกับการปรับโฉมภายในใหม่แทบทั้งหมด พร้อม 13 ธีมโซน โดยมีไฮไลท์คือการเดินทางมาของ “เจนทู เพนกวิน” เพนกวินสายพันธุ์ใหม่จำนวน 10 ตัว ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ซึ่งเดินทางมาจากบิลลุนด์ประเทศเดนมาร์กเพื่อให้ชาวไทย และชาวต่างประเทศได้ชมพร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของเจ้าเจนทูเพนกวินที่มีถิ่นกำเนิดอยู่แถบขั้วโลกใต้กันอย่างใกล้ชิด       ครั้งแรกในประเทศไทยที่นี่ที่เดียว เพื่อร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 9 ปีกับสยามพารากอน
“สำหรับในส่วนของแคมเปญส่งเสริมการขายนั้น เรียกได้ว่าร้อนแรงที่สุดแห่งปี กับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ แสนวิเศษ... ฉลองครบรอบ 9 ปี สยามพารากอน ร่วมรับและลุ้นรางวัลมากมาย รวมมูลค่ากว่า 7.3 ล้านบาท อาทิ     เมื่อช้อป ณ ร้านค้าภายในศูนย์ฯ ครบทุก 2,000 บาท รับคูปองชิงโชค 1 ใบ และพิเศษ สำหรับสมาชิกบัตรแพลตตินั่ม เอ็ม การ์ด รับคูปองชิงโชค 3 ใบ เพื่อลุ้นเปิดประสบการณ์เหนือระดับเฉพาะสยามพารากอนเท่านั้น กับ The Magical moment trip only for Siam Paragon : “Unseen Sea Life Australia” ทริปท่องเที่ยวออสเตรเลียสุดหรูหรา พร้อมเข้าชม SEA LIFE Sydney Aquarium,Wild Life Sydney Zoo ชมเบื้องหลังการแสดงแบบใกล้ชิด ชื่นชมทิวทัศน์แบบส่วนตัวที่  จัดพิเศษให้เฉพาะที่ Sydney Tower Eye และของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 3.4 ล้านบาท และเมื่อช้อปครบ 3,000 บาท รับทันทีบัตรกำนัล มูลค่า 300 บาท เพื่อสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับบริการรถลีมูซีนจาก UBER นอกจากนี้ยังมีของรางวัลพิเศษสำหรับผู้สะสมยอดซื้อสูงสุด 9 ท่านแรก ตลอดรายการรับของกำนัลพิเศษจากร้านค้า      ชั้นนำรวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 90 % จากร้านค้าชั้นนำที่ร่วมรายการ

 และพลาดไม่ได้กับการรับเพิ่มความสุขสุดพิเศษมากมายเฉพาะวันที่ 9 ธันวาคม วันเดียวเท่านั้น  อาทิ ผู้ที่มียอดซื้อสูงสุด 9 ท่านแรก รับทันที  TWG Hamper Set  มูลค่า 20,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 180,000 บาท พร้อมผนึกกำลังกับ 3 ผู้นำด้าน Entertainment & Edutainment ระดับโลก ได้แก่ BANGKOK SEA LIFE OCEAN WORLD, PARAGON CINEPLEX และ KIDZANIA BANGKOK มอบคูปองรับสิทธิส่วนลดพิเศษ ซึ่งรวมมูลค่าส่วนลดกว่า/ 1.7 ล้านบาท อีกทั้งข้อเสนอสุดพิเศษจากบัตรเครดิตชั้นนำมากมายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 11 มกราคม  2558 ซึ่งมั่นใจว่าจะสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการจับจ่ายให้คึกคัก ด้วยการคัดสรรรางวัลสุดพิเศษในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้นเฉลี่ย 20% ต่อวันตลอดระยะเวลาของการจัดกิจกรรมนี้ที่จะมีไปถึงต้นปีหน้า เพื่อสร้างผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้” นางมยุรี กล่าว
 
ในช่วงปีที่ผ่านมา สยามพารากอน มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เริ่มจากการปรับโฉมเพิ่มแสง สี เสียง         ของบริเวณหน้าตัวอาคารเพื่อสื่อสารกับลูกค้าได้กว้างมากขึ้น รวมทั้งการตกแต่งภายในศูนย์การค้า ล็อบบี้ลิฟต์ ตลอดจนปรับระบบมัลติมีเดียใหม่ทั้งหมด 100% เพื่อให้มีคุณภาพและได้นำเทคโนโลยีอัพเดตที่สุดเข้ามาใช้ และเพิ่มจุดให้บริการสำหรับลูกค้าคนพิเศษบริเวณทางเชื่อมต่อล็อบบี้ชั้น M ทั้งฝั่ง North และ South และชั้น G ฝั่ง North พร้อมปรับพื้นที่ จอดรถ Super Club สำหรับลูกค้า Super Cars, Platinum และ Scarlet เพื่อเพิ่มความลักซ์ชัวรี่ อีกทั้งน้ำพุซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของสยามพารากอนที่ลูกค้าชื่นชอบก็ได้เพิ่มระบบให้สามารถเคลื่อนไหวล้อไปกับจังหวะเสียงเพลง ดนตรี หรือกิจกรรมที่เกิดขึ้น ณ บริเวณลานพาร์คพารากอนได้ ตลอดจนการตกแต่งภายในซึ่งคาดว่าทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ใน        ปีหน้า โดยใช้งบรีโนเวตทั้งสิ้น 250 ล้านบาท

 “สยามพารากอน” ประกาศความยิ่งใหญ่ 9 ปี แห่งความสำเร็จกับการเป็นผู้นำ"

ขณะเดียวกันร้านค้าผู้เช่าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ยังได้มีการปรับโฉมร้านที่เปิดตัวภายใต้คอนเซปต์ใหม่ที่แรกที่สยามพารากอน อาทิ แฟชั่นแบรนด์ดัง Dolce & Gabbana บูติกโฉมใหม่ที่ยังคงความเป็นอิตาเลี่ยนแบรนด์อย่างแท้จริง ผสมผสานกลิ่นไอการตกแต่งแบบชาวซิซีเลียนอันเป็นเอกลักษณ์, Valentino แอกเซสซอรีบูติกที่ถูกตกแต่งให้เป็นเมซงที่ดูหรูหรา รวมถึงบูติกเบเกอรี่ชั้นนำ เลสปาซ เดอ โอเรียนเต็ล (L'Espace de Oriental)  ที่เปิดโฉมใหม่กับคอนเซปต์ Fashion Afternoon High Tea เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่แห่งการช้อปปิ้งที่ล้ำสมัยให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในขณะที่แบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมายจากทั่วโลก ได้ให้ความไว้วางใจสยามพารากอนเป็นสถานที่สำหรับเปิด Flagship Store และร้านค้าแห่งแรกในเมืองไทย อาทิ ลาดูเร่ (Laduree) มาการองลักชัวรี่ แบรนด์ดังระดับโลกจากฝรั่งเศส, ซินญอร์ แซสซี่ (Signor Sassi) ร้านอาหารอิตาเลี่ยน  ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ

“โดยในปี 2558 สยามพารากอนมีความมุ่งมั่นที่จะครองความเป็นหนึ่งในใจของลูกค้านักช้อปทุกคน ในการนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่าง ตรงใจ และล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมได้ตลอดเวลาอย่างไม่หยุดนิ่ง และเตรียมพร้อมก้าวสู่อนาคตข้างหน้า ด้วยการเดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ในการช้อปปิ้ง สินค้าที่แปลกใหม่หมุนเวียนกันมาจากทุกมุมโลก นวัตกรรมกิจกรรมการตลาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย หรือเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ที่จะมอบให้แก่ลูกค้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” นางมยุรี กล่าวสรุป