posttoday

"EXIM BANK" ปรับใหญ่ หนุน SMEs ไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน

07 สิงหาคม 2568

EXIM BANK เดินหน้าปฏิรูปองค์กรครั้งใหญ่ ยกระดับบทบาทสู่การเป็น Top of Mind ของผู้ส่งออกไทย พร้อมเป็นพี่เลี้ยง SMEs สู่เวทีการค้าโลกอย่างยั่งยืน

"EXIM BANK"  ปรับใหญ่ หนุน SMEs ไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน

กว่า 3 ทศวรรษที่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ไม่เคยหยุดพัฒนาและยืนหยัดอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทยในฐานะกลไกสำคัญของภาครัฐ ในการขับเคลื่อนการค้า การลงทุน และการพัฒนาประเทศ และในวันนี้ EXIM BANK ได้เดินหน้า ‘ปฏิรูป’ ตัวเองครั้งใหญ่ ทั้งในมิติบุคลากรและกระบวนการทำงาน เพื่อยกระดับบทบาทการสนับสนุนภาคธุุรกิจและการส่งออกไทยให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ทั้งจากมาตรการภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการเป็น ‘Top of Mind’ หรือที่หนึ่งในใจของผู้ส่งออกไทย

"EXIM BANK"  ปรับใหญ่ หนุน SMEs ไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน

นางสาวศุกร์ศิริ อภิญญานุวัฒน์ ประธานกรรมการ EXIM BANK กล่าวว่า การยกเครื่ององค์กรของ EXIM BANK ในครั้งนี้เป็นฉันทามติร่วมกันของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับ และเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำแผนวิสาหกิจ 5 ปี (พ.ศ. 2569-2573) และแผนธุรกิจประจำปี 2569 ของธนาคาร ซึ่งยึดหลักการวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค ข้อมูลภายในองค์กร และเสียงสะท้อนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อให้แน่ใจว่า EXIM BANK จะสามารถปรับบทบาทให้สอดคล้องกับบริบทโลก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้ส่งออกไทยได้อย่างแท้จริง

“เป้าหมายสูงสุดของเราคือ การเป็น Top of Mind ของผู้ส่งออกไทย ไม่ว่าจะรายเล็กหรือรายใหญ่ เมื่อคิดจะส่งออก ต้องคิดถึง EXIM BANK เป็นชื่อแรก” นางสาวศุกร์ศิริ กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สิ่งที่ EXIM BANK จะเร่งดำเนินการเป็นลำดับแรกคือ การยกระดับศักยภาพของบุคลากร โดยให้ความสำคัญกับการ Reskill และ Upskill พนักงานในองค์กรให้สอดคล้องไปกับบริบทแวดล้อมและนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ รวมถึงการสร้างการทำงานเป็นทีมที่เหนียวแน่นขึ้นภายในองค์กร ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี และพัฒนาการทำงานในรูปแบบบูรณาการข้ามสายงาน (Cross-functional Team) เพื่อให้ทีมหน้าบ้าน กลางบ้าน และหลังบ้านของธนาคาร สามารถทำงานสอดประสานกันอย่างเป็นเอกภาพ (One Team)

ขณะเดียวกัน EXIM BANK จะให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของพนักงาน ทั้งในด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และรักษาบุคลากรคุณภาพให้อยู่กับองค์กรอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดรับผู้มีความสามารถจากภายนอกเข้ามาร่วมขับเคลื่อนองค์กรในบริบทใหม่

อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของ EXIM BANK คือ การยกระดับบทบาทสู่การเป็น “SMEs Export Facilitator” ที่พร้อมให้บริการด้านการส่งออกอย่างครบวงจร ตั้งแต่การพิจารณาสินเชื่อที่รวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ การเข้าถึงข้อมูลตลาดและกฎระเบียบ ไปจนถึงการจับคู่ธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “มาที่ EXIM BANK ครบ จบในที่เดียว”

“ปัจจุบันผู้ส่งออก SMEs มีสัดส่วนราว 99% ของจำนวนผู้ส่งออกไทยทั้งหมด เราคงไม่สามารถก้าวขึ้นไปเป็น Top of Mind ของผู้ส่งออกได้ หากไม่สามารถเข้าถึงผู้ส่งออก SMEs จากนี้ไป EXIM BANK จะให้ความสำคัญกับผู้ส่งออก SMEs ทุกกลุ่มมากขึ้น” นางสาวศุกร์ศิริ กล่าว

ควบคู่ไปกับการให้บริการทางการเงิน EXIM BANK ยังพัฒนาองค์กรให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์บ่มเพาะผู้ส่งออก SMEs (SMEs Export Academy) เพื่อทำหน้าที่ศูนย์กลางการเรียนรู้และบ่มเพาะผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ต้องการก้าวเข้าสู่ตลาดส่งออก โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศมาสนับสนุนและเติมเต็มศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ

ประธานกรรมการ EXIM BANK กล่าวว่า เพื่อเป็น Top of Mind ของผู้ส่งออก EXIM BANK พร้อมจะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการตั้งแต่วันแรก แม้จะยังไม่ได้ส่งออกแต่มีแนวคิดหรือมุ่งมั่นที่จะส่งออก EXIM BANK จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง มีหลักสูตรบ่มเพาะที่ใช้ความเชี่ยวชาญของธนาคารมาปิดช่องว่างและยกระดับผู้ประกอบการ SMEs ให้มีศักยภาพออกสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะการสร้างผู้ส่งออกรุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ส่งออกไทยให้มากขึ้น ทำให้ภาคส่งออกของประเทศในภาพรวมเข้มแข็ง

นอกจากนี้ EXIM BANK จะให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือผู้ส่งออกในทุกวิกฤตแบบเชิงรุกหรือ Proactive โดยยึดหลัก “ไม่หุบร่ม ในวันที่ฝนตก” โดยเฉพาะภายใต้บริบทเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง ที่ต้องทำงานแบบเชิงรุกเข้าไปช่วยเหลือผู้ส่งออกในทุกช่วงเวลาที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ หรือความผันผวนของตลาด โดยให้บริการทั้งในด้านการเงิน เช่น สินเชื่อ บริการรับประกันการส่งออกและการลงทุน บริการประกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และในด้านที่ไม่ใช่การเงิน เช่น การให้ข้อมูล วิเคราะห์ตลาด และเปิดโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ เพื่อให้ผู้ส่งออกสามารถฟื้นตัวและยืนหยัดได้อย่างมั่นคง โดยความช่วยเหลือดังกล่าวไม่จำกัดเฉพาะลูกค้าของธนาคารเท่านั้น แต่ขยายไปถึงผู้ส่งออกทั่วไปด้วยเช่นกัน

ในปี 2568 เศรษฐกิจและภาคการส่งออกไทยมีข่าวดีจากความสำเร็จของ Team Thailand นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่สามารถเจรจาลดอัตราภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหลือเพียง 19% ซึ่งต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ นับเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดการค้าโลก โดย EXIM BANK พร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน เคียงข้างผู้ประกอบการไทย สนับสนุนทั้งด้านการเงินและเครื่องมือบริหารจัดการความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งในตลาดหลักและตลาดใหม่

“ณ วันนี้ EXIM BANK พร้อมแล้วที่จะมุ่งสู่การเป็น Top of Mind และเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน แม้เผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก” นางสาวศุกร์ศิริ กล่าว

ข่าวล่าสุด

เส้นทาง “เถ้าแก่ส้ม” ร้อยล้าน ปั้นโชกุนเบตง–สายน้ำผึ้งฝางดังทั่วประเทศ