ปุ๋ยเรือใบไวกิ้งเพียงหนึ่งเดียว ต้องตรายารา

จากวันนี้ไปอีกประมาณ 30 ปีข้างหน้า ประชากรโลกจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอีกเป็น 2 เท่า ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้คนจะต้องการอาหารเพิ่มขึ้นอีก 50% ทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตอาหารทางการเกษตรรายใหญ่ของโลก แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือข้อจำกัดเรื่องพื้นที่การเพาะปลูกที่มีไม่เพียงพอ รวมทั้งปริมาณผลผลิตที่จำกัดเช่นกัน เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่ต้องตั้งคำถามว่าเราจะรับมือได้อย่างไร

ยารา – ปุ๋ยตราเรือใบไวกิ้ง ที่อยู่เคียงข้างเกษตรกรไทยมากว่า 45 ปี และเป็นผู้นำด้านปุ๋ยธาตุอาหารพืช หรือปุ๋ย NPK คุณภาพสูง ยาราเป็นเจ้าแรกของโลกที่คิดค้นการผลิตปุ๋ยจากก๊าซไนโตรเจนที่สกัดจากอากาศ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่บริษัทยาราในประเทศนอร์เวย์ได้คิดค้นขึ้นเมื่อ 113 ปีที่แล้ว จากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงนำปุ๋ยยาราเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อครั้งเสด็จเยือนประพาสยุโรปในปี พ.ศ. 2450 หรือเมื่อ 111 ปีที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมชมบริษัทยาราในประเทศนอร์เวย์และมีรูปถ่ายปรากฏชัดเจนอยู่ด้านหลังธนบัตร 100 บาทรุ่นใหม่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งปุ๋ยที่ทรงนำเข้ามาเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้ลองใช้ครั้งแรกนั้นเป็นปุ๋ยธาตุอาหารแคลเซียมไนเตรต
ที่ในปัจจุบันเกษตรกรไทยยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในไร่ทุเรียน ลำไย ส้ม มะนาว โดยรู้จักและคุ้นเคยกันดีในหมู่เกษตรกรไทย
ในชื่อ ปุ๋ยยาราลีว่า (YaraLiva)

"สำหรับในประเทศไทย มีเกษตรกรทั่วประเทศที่หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกพืช ผัก ผลไม้ ทั้งส่งออกและบริโภคภายในประเทศ ปุ๋ยยารา ตราเรือใบไวกิ้ง ก็ได้มีส่วนช่วยเพิ่มผลผลิต รวมไปถึงช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ซึ่งเกษตรกรที่ใช้ยาราจะเข้าใจดีถึงผลลัพธ์ที่พวกเขาได้รับจากการใช้ปุ๋ยยารา" มร.เมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด และรองประธานกลุ่มธุรกิจโภชนาการพืช กล่าว

เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกมีจำกัด เกษตรกรจึงต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิตสูงสุด  ปุ๋ยยาราจึงได้เข้ามาตอบโจทย์นี้ ด้วยธาตุอาหารจากแหล่งผลิตคุณภาพสูง และยังมีสูตรธาตุอาหารที่หลากหลายเหมาะสมสำหรับพืชผลทางการเกษตรเกือบทุกประเภทในประเทศไทย ในระยะการปลูกที่ต้องการการบำรุงที่แตกต่างกัน  ซึ่งยาราเป็นปุ๋ยคอมพาวน์ (Compound) ที่มีแร่ธาตุทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม อยู่ใน 1 เม็ดแล้วครบถ้วนตามสูตรที่ระบุไว้ เกษตรกรจึงมั่นใจได้ว่า พืชจะสามารถได้รับธาตุอาหารที่ถูกต้องตรงตามสูตรอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ เม็ด

สำหรับพืชผลทางการเกษตรประเภทอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ปุ๋ยยารามีสูตรเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด อาทิ ทุเรียน ลำไย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผักใบเขียว และ อื่นๆ ซึ่งถือเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่น่าจับตามอง เนื่องจากเป็นพืชที่เกษตรกรส่วนใหญ่เพาะปลูก โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยาราประเทศไทยได้คิดค้นสูตรพิเศษ 23-8-8 สำหรับตลาดนี้โดยเฉพาะ

นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ยารามุ่งมั่นในการคิดค้นพัฒนามานานกว่า 113 ปี การปลูกฝังความรู้ (Knowledge grows) เพื่อเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร โดยเน้นการให้ความสำคัญกับความต้องการของเกษตรกรเป็นหลัก (Farmer Centric) คือปรัชญาที่ยารายึดมั่นในการดำเนินงานของ

บริษัทฯ และเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคออนไลน์ และตอบรับนโยบาย Thailand 4.0 ที่รัฐบาลต้องการยกระดับความเป็นอยู่ให้กับประชาชนผ่านนวัตกรรมและสามารถพึ่งพาตนเองได้ “Yara Thailand 4.0” จึงเป็นกลยุทธ์ของยาราที่สอดคล้องกับนโยบายแห่งชาติ โดยยาราได้ลงทุนในเรื่องของการทำ Digital Farming ที่มีการรวมเอาความรู้ เครื่องมือ และข้อมูลทางการเกษตร เพื่อสนับสนุนความรู้ด้านเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของดิน อาการขาดธาตุอาหารของพืช หรือการวิเคราะห์ทางการเกษตรที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจที่ดีให้กับครอบครัว ชุมชน และไปถึงระดับประเทศในที่สุด โดยเกษตรกรสามารถเข้าไปเก็บเกี่ยวข้อมูลผ่านโลกออนไลน์ และแอปพลิเคชัน “Yara CheckIT” ซึ่งในอนาคตจะมีอีกหลาย
แอปพลิเคชันที่เอื้ออำนวยให้กับเกษตรกรและตัวแทนจำหน่ายให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน ตลาดในประเทศไทยมีปุ๋ยเพื่อการเกษตรจำหน่ายมากมายหลายยี่ห้อ เกษตรกรบางส่วนยังมีความสับสนใน ชื่อยี่ห้อ และโลโก้ ที่มีลักษณะคล้ายกัน มร.เมดิ เซนท์-อังเดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยารา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้คำแนะนำว่า เกษตรกรควรเลือกปุ๋ยจากคุณภาพและความน่าเชื่อถือ รวมถึงประสบการณ์ที่มีมายาวนาน เนื่องจากจะเป็นเครื่องการรันตีถึงมาตรฐานของปุ๋ยได้ "สำหรับยารา เรากล้าพูดได้ว่าเราเป็นปุ๋ยตราเรือใบไวกิ้งเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่มีทั้งคุณภาพและมาตรฐานสูง เกษตรกรไทยเชื่อมั่นและไว้ใจเรา จึงทำให้เราสามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดประเทศไทยมาอย่างยาวนานตลอด 45 ปี และต่อไปในอนาคต  จึงไม่แปลกใจว่าทำไมเราเป็นปุ๋ย NPK ที่ครองอันดับ 1 ในใจเกษตรกรตลอดมา"

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

www.facebook.com/yarathailandltd  หรือ www.yara.co.th  หรือโทร 0-2261-3242