4 บุคคลที่หัวใจไม่เคยพิการ แบรนด์ชวนคนไทยร่วมสมทบทุนมูลนิธิขาเทียมฯ

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้โอกาส โดยเฉพาะกับผู้พิการขาขาดแล้วการได้กลับมาเดินและใช้ชีวิตเหมือนคนปกตินับเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ ปีใหม่นี้แบรนด์ขอชวนทุกท่านร่วมส่งต่อความสุขให้กับผู้พิการขาขาดกับมูลนิธิขาเทียม เพื่อนำไปสร้างขาเทียมและส่งต่อความสุขไม่สิ้นสุด

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงทราบถึงความยากลำบากและความเดือดร้อนของผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ทั่วประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดตั้งมูลนิธิขาเทียมฯ ขึ้นในวันที่ 17 สิงหาคม 2535 เพื่อทำขาเทียมให้แก่คนพิการขาขาดที่ยากไร้ ด้อยโอกาส โดยไม่คิดมูลค่าและไม่เลือกเชื้อชาติศาสนา แต่ทั้งนี้ปริมาณความต้องการขาเทียมก็ยังมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันหมด เนื่องจากขาเทียมแต่ละขาที่ทำขึ้นนั้นเป็นขาพิเศษที่ต้องวัดขึ้นมาเฉพาะแต่ละคน อีกทั้งผู้พิการจะต้องได้รับการเปลี่ยนขาเทียมใหม่ทุกๆ 2 ปี ทำให้จำนวนขาเทียมที่มี ณ ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ตั้งแต่เมื่อปี 2543 เพื่อขอรับบริจาคฝาแบรนด์ไปหลอมผลิตเป็นอุปกรณ์ประกอบขาเทียม มอบให้แก่ผู้พิการขาขาดซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศโดยไม่คิดมูลค่า ต่อมาเมื่อฝาแบรนด์เปลี่ยนจากฝาอลูมิเนียมมาเป็นฝาพลาสติก จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการใหม่ เพราะยังมีผู้พิการขาขาดจำนวนมากที่ยังต้องการโอกาสและรอความช่วยเหลือจากมูลนิธิขาเทียมฯ ในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ แบรนด์ซุปไก่สกัดขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งความสุขและกำลังใจให้กับคนไทยทุกคนก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและแข็งแรง และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสมทบทุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยทุกการซื้อกระเช้าแบรนด์ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 - มกราคม 2560 จะร่วมสมทบทุนมูลนิธิ ฯ หรือบริจาคโดยตรงได้ที่มูลนิธิขาเทียมฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาชิดลม เลขที่บัญชี 001 4 76000 8 โทรศัพท์ 089 840 0884 หรือคลิกเข้าดูรายละเอียดได้ที่ http://www.prosthesesfoundation.or.th/

นายมีชัย บุษบาไพร

หนึ่งในผู้ที่ต้องสูญเสียขาด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น โดยได้รับความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิขาเทียมฯ ตอนนี้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ทำขาเทียมของมูลนิธิขาเทียมฯ เพื่อส่งต่อโอกาสให้กับผู้พิการขาเทียมคนอื่นๆ ต่อไป

"ครั้งหนึ่งในอดีตผมสัมผัสกับความสิ้นหวังและท้อแท้ รู้สึกว่าชีวิตหมดสิ้นทุกอย่าง เพราะในใจคิดว่าขาเทียมหรือจะสู้ขาจริงได้ แล้วในวันที่ผมได้เปลี่ยนความคิดไปตลอดกาลก็มาถึง เมื่อได้ลองใส่ขาเทียมเป็นครั้งแรก สิ่งที่เคยกลัวทั้งหมดก็หายไป ผมได้ชีวิตใหม่ และใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้อีกครั้ง ผมจึงอุทิศตนเพื่อคนพิการ ด้วยการอาสาสมัครมาเป็นช่างทำขาเทียมให้กับมูลนิธิขาเทียมฯ เพื่อส่งต่อความหวัง และสานต่อความฝันให้กับผู้พิการขาขาดที่ยากไร้ทั่วประเทศตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน เพราะตระหนักดีว่า "ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึก และความต้องการของผู้ที่ใส่ขาเทียม เท่ากับคนที่ใส่ขาเทียมด้วยกัน"

นางสาวธีราภรณ์ ตาแก้ว

คุณครูคนเก่งที่เสียขาจากอุบัติเหตุตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย หลังจากได้รับขาเทียมแล้วเหมือนคุณครูมีชีวิตใหม่ ปัจจุบันคุณครูยังมุ่งมั่นให้ความรู้กับเด็กๆ ในฐานะแม่พิมพ์ของชาติ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพพัฒนาประเทศต่อไป

"ช่วงเกิดอุบัติเหตุก็รู้สึกตกใจ ไม่เคยคิดว่าจะเสียส่วนหนึ่งของร่างกายไป เหมือนชีวิตถึงจุดพลิกผันที่ร้ายแรง จนได้รับขาเทียมจากมูลนิธิขาเทียมฯ แรกๆ ก็ยังไม่ค่อยมีความมั่นใจ เพราะเวลาไปที่ไหนก็ชอบมีคนมอง แต่ครอบครัวและเพื่อนๆ ก็คอยให้กำลังใจอยู่ตลอด จนทำให้ผ่านช่วยเวลานั้นมาได้ ส่วนตัวคิดว่าถึงแม้เราจะพิการร่างกาย แต่ใจเราต้องไม่พิการ ดังนั้นจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นคุณครูที่ถ่ายทอดความรู้ให้เด็กนักเรียนอย่างสุดความสามารถ คนพิการก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องเข้มแข็งและเดินหน้าต่อไป การที่พิการไม่ได้แปลว่าต้องได้สิทธิพิเศษใดๆ หรือต้องมีโอกาสพิเศษใดๆ เพราะเขาก็คือคนหนึ่งคนที่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป"

นายกนกพล เต็มรัตนะ

อดีตทหารกล้าที่เสียขาจากการเหยียบกับระเบิด หลังจากได้รับขาเทียม เขาตั้งใจฝึกเล่นตะกร้อจนเก่งเอาชนะคนขาดี เข้าแข่งและคว้าเหรียญได้มากมาย เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย และตั้งใจว่าชีวิตนี้จะทำความดีถวายแด่พระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์

"ตอนเป็นทหารก็เตรียมใจไว้แล้วว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แล้วก็เกิดจริงๆ แล้ววันหนึ่งผมก็ได้รับโอกาสอีกครั้งจากการได้ขาเทียมจากมูลนิธิขาเทียมฯ หลังจากนั้นผมหมั่นฝึกฝนเล่นตะกร้อและกีฬาต่างๆ เพราะอยากเป็นแบบอย่างให้เยาวชนเห็นว่าขนาดผมที่ใส่ขาเทียมยังทำได้ขนาดนี้ เด็กๆ ที่ร่างกายครบสมบูรณ์ก็จะต้องทำได้ หรือทำได้ดีกว่าผม ตอนนี้ผมเดินสายเล่นกีฬา และเป็นวิทยากรพูดสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ เพื่อเป็นการทำความดีถวายแก่พระมหากษัตริย์ และพระราชวงศ์ และผมเชื่อว่า ทุกๆ อย่างในชีวิต จะสำเร็จได้อยู่ที่จิตใจที่มีความมุ่งมั่นของเราเอง"

ด.ช.ศุภกร ไพรัตน์

น้องเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่มีขา ฝึกเดินก้าวแรกในชีวิตด้วยการใส่ขาเทียม แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคที่ทำให้การเรียนรู้ และความเฉลียวฉลาดของน้องน้อยลงแม้แต่น้อย

"น้องโตเกียวเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ไม่มีขา และฝึกเดินก้าวแรกด้วยการใส่ขาเทียมจากมูลนิธิขาเทียมฯ แต่ร่างกายที่พิการ ไม่ได้ทำให้ใจน้องพิการไปด้วยเลย น้องมีความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ และด้านไอทีเหนือกว่าผู้ใหญ่บางคน โดยหัดเขียน ABC ก่อน กขค เสียอีก ที่สำคัญน้องเรียนรู้ทักษะการฟังพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษจากอินเตอร์เน็ต และน้องยังสนใจภาษาจีน สเปนอีกด้วย นอกจากนี้น้องสนใจคอมพิวเตอร์และไอทีเป็นพิเศษด้วย โดยศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง ด้วยความน่ารักและความฉลาดของน้อง ทำให้ขาพิการที่น้องใส่ กลายเป็นปมเด่นประจำตัวน้องไปแล้ว"

รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายกระเช้าแบรนด์ช่วงเดือนธันวามคม 2559 - มกราคม 2560 จะร่วมสมทบทุนมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี