อันดับคนดังที่ยังสร้างรายได้มหาศาลหลังเสียชีวิตไปแล้ว

          เมื่อการสำรวจรายได้ลุกลามไปถึงสุสาน มาดูรายชื่อของ ศิลปิน นักกีฬา และคนดังในอุตสาหกรรมบันเทิงที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 72% จากยอดรวมของปีที่แล้ว นับเป็นช่วง 12 เดือนที่ขยายตัวที่สุด นับตั้งแต่ทางนิตยสารได้ติดตามรายได้จากผู้เสียชีวิตครั้งแรกเมื่อปี 2001 และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ห้าอันดับแรกแต่ละรายทำเงินได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ในเวลาแค่ปีเดียว

          เริ่มที่ J.R.R. Tolkien ผู้ประพันธ์ The Lord of the Rings และ The Hobbit ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว ด้วยโรคปอดบวมในปี 1973 สร้างรายได้ 500 ล้านดอลลาร์จากการเข้าซื้อกิจการของ Embracer บริษัทวิดีโอเกมสัญชาติสวีเดน ที่ประกาศเข้าซื้อกิจการ Middle Earth Enterprises เมื่อเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ Middle-Earth Enterprises คือผู้จัดการสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับภาพยนตร์ วิดีโอเกม หนังสือ และสินค้าต่างๆของ Tolkien โดยหลังจากการปิดดีลการเข้าซื้อกิจการทาง Embrance จะต้องแบ่งเขตแดนมูลค่าทรัพย์สินทางปัญญานี้กับเจ้าของอื่นๆอย่าง HarperCollins, Amazon, Warner Brothers / New Line และ Tolkien Estate ซึ่งมีการออกมาแถลงว่าเป็นการแบ่งแยกสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาที่ซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

          ตามมาติดๆ คือนักบาสเก็ตบอล Kobe Bryant กับรายได้ 400 ล้านดอลลาร์จากการขายหุ้นของเขาในบริษัทเครื่องดื่มกีฬา BodyArmor ให้กับ Coca-Cola ซึ่งนับเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทน้ำอัดลม ตำนาน Los Angeles Lakers ผู้ล่วงลับถือหุ้น 7% ในเครื่องดื่มชูกำลัง BodyArmor และดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริษัทก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี 2020 และในเดือนพฤศจิกายน 2021 Coca-Cola ตกลงที่จะซื้อหุ้นของ BodyArmor จำนวน 70%

          David Bowie เจ้าของวลีชื่อดัง “Is there life on Mars?” สร้างรายได้จากการขายลิขสิทธ์ภาพแคตตาล็อกสำนักพิมพ์และผลงานเพลงของเขา ให้กับ Warner Chappell ในเดือนมกราคมด้วยราคา 250 ล้านเหรียญ

          Elvis Presley หรือ King of Rock N' Roll ยังคงเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจถึงแม้ 45 ปีหลังจากการตายของเขา แต่เอลวิสยังสร้างรายได้ถึง 110 ล้านดอลลาร์ โดยอย่างน้อย 80 ล้านดอลลาร์มาจากตั๋วทัวร์ Graceland Mansion บันทึกการแสดง สินค้าที่ระลึกของเขา และยังมีส่วนแบ่งประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ จาก Box Office ที่หยิบชีวประวัติของเอลวิสมาสร้างเป็นภาพยนต์ แต่คาดว่าด้วยกระแสของเขาในปีนี้จะทำให้แฟนคลับทั้งเก่าและใหม่มองหาของสะสมของ Elvis กันมากขึ้นและแน่นอนว่ารายได้ของราชา Rock N’ Roll ผู้ล่วงลับก็จะเพิ่มขึ้นอีก มีรายงานจากทาง Disney ว่าตุ๊กตาสัตว์ Stitch ที่สวมชุด Elvis มียอดขายเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้ว

          James Brown หรือ Godfather of Sou คือบุคคลที่ทำงานหนักที่สุดในธุรกิจการแสดงและยังคงทำงานต่อไปแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม บริษัท Primary Wave ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่เพลงอิสระในนิวยอร์ก ได้คว้าลิขสิทธิ์ในเพลง อสังหาริมทรัพย์ รวมถึงชื่อและรูปภาพทั้งหมดของบราวน์ ในมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ มีรายงานว่าผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ของบราวน์จะนำเงินที่ได้บางส่วนไปบริจาคเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

          การแสดงโชว์ Cirque de Soleil ในธีม Michael Jackson กลับมาดำเนินการอีกครั้งในเมือง Las Vegas และโกยรายได้ควบคู่ไปกับแคตตาล็อกเพลง Mijac Music ของราชาเพลงป็อปชื่อดัง นอกจากนั้นช่องทางเงินสดใหม่ๆ เกิดขึ้นเมื่อ MJ The Musical on Broadway ที่เล่าเรื่องราวประวัติของ ไมเคิล แจ็คสัน สามารถทำรายได้ 80 ล้านดอลลาร์ หลังรอบปฐมทัศน์เมื่อเก้าเดือนก่อน

          Leonard Cohen นักแต่งเพลงชื่อดังเจ้าของบทเพลง "Hallelujah" ได้รับความสนใจจาก Hipgnosis บริษัทบริหารจัดการเพลงและทรัพย์สินทางปัญญาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้การดูแลของ Merck Mercuriadis ซึ่งบริหารการแสดงของศิลปินดังก้องโล่งตั้งแต่ Beyoncé และ Elton John ไปจนถึง Guns N' Roses และ Morrissey ซึ่งในปีนี้ Cohen ผู้ล่วงลับทำรายได้ไป 55 ล้านดอลลาร์

          Theodor Seuss Geisel หรือที่รู้จักกันดีในนามปากกา ชื่อว่า Dr. Seuss เป็นนักเขียนและนักวาดการ์ตูนชื่อดัง และถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1991 แต่ยอดขายหนังสือของเขาก็ยังทำเงินได้ดีมาตลอด ตามรายงานเขาสร้างรายได้มากกว่า 16 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ควบคู่ไปกับข้อตกลงของ Netflix และการขายสินค้าภายใต้ลิขสิทธิ์ Dr. Seuss ที่มีมูลค่า 32 ล้านดอลลาร์

          มือกลองจากวงร็อคยุค 80 Toto แทบไม่เป็นที่รู้จักเช่นเดียวกับเซเลบคนอื่นๆที่ตายไปแล้ว แต่ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่เขาคือตำนานของวงการดนตรี เขาไม่เพียงแค่ร่วมเขียนเพลง "Africa" ​​ที่ได้รับ Platinum-Certifield แต่ Jeff Porcaro ยังเป็นมือกลองของสตูดิโอสำหรับการบันทึกเสียงของนักร้องรุ่นใหญ่อย่าง Quincy Jones และในอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลอย่าง Thriller ของ Michael Jackson Porcaro และยังเคยร่วมงานกับ Steely Dan, Eric Clapton, Paul McCartney และ Bruce Springsteen ซึ่งค่าลิขสิทธิ์การเผยแพร่และการบันทึกเสียงต่างๆของเขาถูกหักโดย Primary Wave

          นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1965 ที่รายการพิเศษสำหรับวันหยุดสุดคลาสสิกเรื่อง “It's The Great Pumpkin, Charlie Brown”, “A Charlie Brown Thanksgiving” และ “A Charlie Brown Christmas” จะไม่ออกอากาศทางฟรีทีวีหลังจากที่ Apple TV ยึดสิทธิ์สำหรับรายการของ Snoopy และแก๊ง Peanuts เป็นการให้บริการสตรีมแบบชำระเงิน (ผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะสามารถรับชมได้ฟรีในบางวันเท่านั้น) โดยการเข้าซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้สร้างรายได้ให้ Charles Schulz 24 ล้านดอลลาร์

          Juan Gabriel นักแต่งเพลงและนักร้องชาวเม็กซิกันที่มีผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ เขาได้เขียนเพลงกว่า 1,800 เพลงในช่วงชีวิตของเขา ซึ่งทำยอดขายได้ประมาณ 60 ล้านอัลบั้ม และคว้า 2 รางวัลละตินแกรมมี่ กาเบรียลเป็นที่รู้จักจากสไตล์การแสดงและแฟชั่นที่ฉูดฉาด เขาจะสวมใส่เสื้อผ้าที่มีการประดับเลื่อมมากมาย ฉายาของเขาคือ "Divo of Juarez" กาเบรียลสร้างรายได้ไป 23 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยผู้จัดการสินทรัพย์ของกาเบรียลได้ทำข้อตกลงกับ Universal Music Group ซึ่งบริษัทจะมอบหมายแคตตาล็อกของนักร้องหลังปี 2008 ให้กับบริษัทในเครือ Virgin Music US Latin ในขณะที่ทาง Universal เองจะดูแลแคตตาล็อกที่มีทั้งหมด ดอลลาร์

          ถ้าไม่มีชื่อของเขาคนนี้คงถือเป็นเรื่องแปลก John Lennon ซึ่งในปี 2022 นักร้องเพลง “Imagine” ได้รับค่าลิขสิทธิ์ตามปกติจากช่วงเวลาที่เป็น The Beatles และผลงานเดี่ยวของเขา ประมาณ 16 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์ยังถูกเพิ่มเข้าไปในเงินกองทุนของเลนนอนจากลิขสิทธิ์เพลงของวงสี่เต่าทอง ที่ Disney รับประกันสำหรับภาพยนตร์เรื่อง Get Back ที่กำกับโดยปีเตอร์ แจ็คสัน ซีรีส์สารคดีระดับมหากาพย์ที่เล่าถึงการบันทึกเสียงช่วงสุดท้ายที่น่าอับอายของวง

          นอกจากนี้ Beatle ผู้เงียบขรึม หรือ George Harrison ทำรายได้อยู่ที่ 12 ล้านดอลลาร์ในปีนี้และเป็นอีกคนที่ได้รับประโยชน์จากซีรีส์สารคดี Get Back เขาได้รับเงินจำนวน 2.5 ล้านดอลลาร์ให้กับผลงานเดี่ยวประจำปีของเขาและค่าลิขสิทธิ์ Fab Four และอีก 2.6 ล้านเหรียญจากการแสดงโชว์ Beatles Cirque de Soleil

          โดยรวมแล้ว นักลงทุนมองว่าเพลงเป็นแหล่งรายได้ที่ทำเงินมากที่สุด รายได้รวมเกือบ 700 ล้านดอลลาร์จาก 1.6 พันล้านดอลลาร์มาจากทรัพย์สินของรายชื่อนักดนตรีทั้ง 9 คนในลิสต์ พวกเขายังคงเป็นแกนนำในรายการเนื่องจากการสตรีมค่าลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี

          ในยุคแรกๆของร็อกแอนด์โรล บริษัทต่างๆเป็นเจ้าของทุกอย่างและต่อสู้กับตัวแทนของศิลปินเพื่อควบคุมทรัพย์สินทางปัญญาของพวกเขา” จอห์น บรันคา ทนายความด้านความบันเทิง ผู้จัดการมรดกของไมเคิล แจ็คสัน กล่าว “ตอนนี้มันเปลี่ยนไปอีกทางเมื่อศิลปินอายุมากขึ้น และกำลังวางแผนอสังหาริมทรัพย์ วางแผนภาษี และขายทรัพย์สินทางปัญญาคืนให้กับบริษัทต่างๆ”

          ทั้งนี้การจัดอันดับ Dead Celebrity ประจำปีนี้ เป็นการรวบรวมรายได้ก่อนหักภาษีการขาย การสตรีม ข้อตกลงการออกใบอนุญาต และแหล่งที่มาอื่นๆ โดยไม่หักค่าธรรมเนียมสำหรับตัวแทน ผู้จัดการ และทนายความ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2021 ถึง 30 ตุลาคม 2022 ตลอดจนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่ทำหรือประกาศในช่วงเวลาเดียวกัน  โดยใช้ข้อมูลจาก Luminate, IMDbPro, NPD BookScan และการสัมภาษณ์คนในวงการ 

ข้อมูล

https://www.forbes.com/sites/lisettevoytko/2022/10/31/the-highest-paid-dead-celebrities-of-2022-a-writer-earns-half-a-billion-from-the-great-beyond/?sh=17b02322bb3f