เทคโนโลยีใหม่ช่วยประเมินแนวโน้มการหกล้มล่วงหน้าแก่ผู้สูงอายุ

การบาดเจ็บถือเป็นเรื่องทั่วไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน สำหรับหลายท่านอาจมองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่กับผู้สูงอายุนั้นไม่ใช่ หลายครั้งบาดแผล อาการบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยในแต่ละครั้ง อาจไม่สามารถรักษาให้หายดีดังเดิมและทิ้งผลกระทบใหญ่หลวงแก่ร่างกาย

 

          แม้แต่เรื่องทั่วไปอย่างการหกล้มในชีวิตประจำวัน สำหรับผู้สูงอายุยังอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย หลายครั้งสาเหตุเรียบง่ายอย่างการหกล้มอาจนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสได้ไม่ยาก จึงเป็นเหตุให้นี่ถือเป็นเรื่องต้องเฝ้าระวังทั้งจากตัวผู้สูงอายุเองและบรรดาคนรอบข้าง

 

          นำไปสู่การคิดค้นระบบประเมินแนวโน้มการหกล้มล่วงหน้าขึ้นมาเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมสูงอายุในปัจจุบัน

 

 

ความอันตรายจากการหกล้มของผู้สูงอายุ

 

          หลายท่านที่พักอาศัยหรือมีญาติผู้ใหญ่อายุมากย่อมเข้าใจในส่วนนี้ แต่บางท่านอาจยังสงสัยว่าแค่หกล้มจะอันตรายสักแค่ไหน สาเหตุที่เป็นแบบนั้นเกิดจากสภาพร่างกายของผู้สูงอายุเอง ด้วยปัจจัยทางสุขภาพที่เสื่อมถอยตามอายุ จากข้อมูลของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า การหกล้มเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ในกลุ่มอุบัติเหตุเลยทีเดียว

 

          ตามสถิติพบว่าผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงจะเกิดการหกล้มกว่า 1 ใน 3 และความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มตามอายุที่มากขึ้น สาเหตุมาจากปัจจัยทางร่างกายทั้งความเปลี่ยนแปลงทางสายตา, กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็นเสื่อมถอย, โรคประจำตัวบางชนิด เมื่อรวมกับที่พักอาศัยซึ่งไม่ได้ออกแบบมาให้เหมาะสมอาจนำไปสู่การหกล้มได้

 

          เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้การหกล้มในผู้สูงอายุอันตรายเกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกาย เมื่อเกิดการหกล้มมีความเสี่ยงสูงที่จะนำไปสู่อาการกระดูกหัก จากความหนาแน่นมวลกระดูกที่ลดลง ส่วนที่เกิดความเสียหายพบได้มากหลายตำแหน่งตั้งแต่ข้อมือ, แขน, เอว, สะโพก ไปจนกระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นส่วนที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง

 

          เมื่อเกิดการหกล้มจนบาดเจ็บการฟื้นตัวของของผู้สูงอายุจะทำได้ไม่ดีนัก ด้วยข้อจำกัดเรื่องสภาพร่างกายทำให้เกิดขึ้นได้ช้า ต้องใช้ระยะเวลาในการพักรักษายาวนานกว่าปกติ นอกจากนี้ขั้นตอนการรักษาตัวอาจมีข้อจำกัดจนไม่สามารถกลับมาหายดังเดิมอีกด้วย

 

          ในกรณีต้องนอนพักฟื้นเป็นเวลานานหรือโชคร้ายกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมให้อ่อนแอลง รวมถึงสภาพจิตใจที่อาจเกิดการซึมเศร้าได้ง่าย แม้จะสามารถฟื้นฟูกลับมาแข็งแรงก็ยังอาจเกิดอาการกลัวการหกล้มซ้ำ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตในระยะยาวได้เช่นกัน

 

          ด้วยเหตุนี้ระบบประเมินแนวโน้มการหกล้มล่วงหน้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

 

ระบบประเมินแนวโน้มการหกล้มล่วงหน้า ช่วยตรวจสอบสุขภาพแบบเรียลไทม์

 

          ผลงานนี้มาจากโครงการ Move More Live More ขององค์กรการกุศล Age NI กับการคิดค้นระบบตรวจจับสัญญาณการหกล้มให้แก่ผู้สูงอายุ เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันการหกล้มที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้สูงวัย โดยอาศัยเทคโนโลยีเพื่อตรวจสอบสัญญาณเพื่อคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า

 

          กลไกการทำงานของระบบนี้จำเป็นต้องให้ผู้ใช้งานสวมใส่สมาร์ทวอชตลอดเวลา เพื่อติดตามเก็บข้อมูลสุขภาพที่จำเป็น สมาร์ทวอชจะทำการบันทึกข้อมูลของผู้สวมใส่ตั้งแต่การขยับตัว, การนอนหลับ, อัตราการเต้นหัวใจ, ปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด ฯลฯ

 

          ข้อมูลจากสมาร์ทวอชจะถูกส่งตรงเข้ามาตรวจสอบผ่านซอฟต์แวร์ที่พัฒนนาขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลการทำกิจกรรมโดยเฉลี่ยของช่วงวัย และข้อมูลกิจกรรมตามปกติของเป้าหมาย จากนั้นจึงเริ่มตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของผู้สวมใส่แบบเรียลไทม์

 

          ตัวระบบออกแบบให้สามารถมองเห็นความแตกต่างทางรายละเอียดแม้เพียงเล็กน้อย หากทำการวิเคราะห์แล้วพบว่าข้อมูลที่ได้รับอาจนำไปสู่แนวโน้มการหกล้มหรือนำไปสู่อุบัติเหตุ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังคอลเซ็นเตอร์เพื่อทำการแจ้งเตือนผ่านช่องทางการโทรหาผู้สวมใส่ เพื่อแจ้งเตือนและตรวจสอบความผิดปกติของผู้สวมใส่ในทันที

 

          คอลเซ็นเตอร์จะทำการสอบถามสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้งานไม่อยู่ในเหตุด่วนเหตุร้ายจนต้องได้รับความช่วยเหลือ ในกรณีที่เกิดความผิดปกติทางสุขภาพผู้ใช้งานสามารถนำมาปรึกษากับคอลเซ็นเตอร์ เพื่อให้พวกเขาช่วยตรวจสอบข้อมูลสภาพร่างกาย ขอรับคำแนะนำด้านสุขภาพ ไปจนการติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลต่อไป

 

          จากการทดสอบประเมินข้อมูลพบว่า ระบบประเมินแนวโน้มการหกล้มช่วยวิเคราะห์ความเป็นไปได้ล่วงหน้าที่จะเกิดการหกล้มก่อนจะเกิดขึ้นจริงได้ถึง 32 วัน เมื่อนำไปใช้งานทั่วไปอาจช่วยลดแนวโน้มการเกิดอันตรายและผลกระทบจากการหกล้มที่จะเกิดในผู้สูงอายุได้อีกมาก

 

          ปัจจุบันระบบประเมินแนวโน้มการหกล้มนี้อยู่ในช่วงระหว่างการทดสอบกับผู้สูงอายุ 65 ปีในไอร์แลนด์เหนือ ตัวเครือข่ายและอุปกรณ์ในปัจจุบันรองรับการใช้งานอยู่ที่ 600 คน แต่ยังมีพื้นที่เพียงพอในการขยายถึง 1,300 คน ถือเป็นบริการที่มีแนวโน้มประสบความสำเร็จและมีความจำเป็นอย่างยิ่งในอนาคต

 

 

          อาจดูเป็นเรื่องยากแต่ถือเป็นแนวคิดน่าสนใจโดยเฉพาะในไทยที่อยู่ในสังคมผู้สูงอายุ เครือข่ายสุขภาพที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลแบบเรียลไทม์มีคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสังคมที่ครอบครัวเดี่ยวเริ่มขยายตัวอย่างกว้างขวาง ที่ซึ่งการหกล้มในแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบร้ายแรงจนอาจถึงชีวิตของผู้สูงอายุ

 

          อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงโครงการที่อยู่ในขั้นทดลอง คงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะประสบความสำเร็จได้แค่ไหน

 

 

 

          ที่มา

 

          https://interestingengineering.com/innovation/new-tech-can-detect-falls-32-days-before-they-occur

 

          https://www.bangkokhospital.com/content/falling-conditions-in-the-elderly

 

          https://www.bbc.com/news/uk-northern-ireland-65861468