7 เทรนเทคโลโลยีที่ต้องจับตาแห่งปี 2023
เริ่มต้นปีใหม่ 2023 สู่การเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งปี วันนี้เราจะพาไปชมเทรนเทคโนโลยีที่ต้องจับตาแห่งปี 2023 ว่ามีอะไรบ้าง
1. พลังงานทดแทน/พลังงานสะอาด
หนึ่งในปัญหาที่เราต้องตระหนักและแก้ไขเร่งด่วนคือ ภาวะโลกร้อน ด้วยความแปรปรวนของภูมิอากาศและภัยธรรมชาติจากสภาพอากาศสุดขั้ว ทำให้พลังงานสะอาดเริ่มได้รับการผลักดันให้เข้ามาทดแทนพลังงานกระแสหลักอย่างน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net zero ภายในปี 2050
นั่นทำให้กระแสการพัฒนาพลังงานสะอาดจะยังเข้มข้น ตั้งแต่พลังงานแสงอาทิตย์, ลม, น้ำ ไปจนพลังงานนิวเคลียร์ แม้แต่ไทยเองยังเริ่มศึกษาเรื่องเตาปฏิกรณ์จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โดยจะเริ่มมีการติดตั้ง เดินเครื่อง และทดสอบกันในปี 2023 เพื่อค้นทางเส้นทางสู่พลังงานยั่งยืนต่อไป
2. แบตเตอรี่ไฟฟ้า
ปัจจุบันเมื่อพูดถึงแบตเตอรี่เราย่อมคิดถึง แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ถือเป็นระบบจ่ายพลังงานหลักแก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานาชนิด เมื่อรวมกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งกำลังเติบโต ทำให้ความต้องการของแบตเตอรี่ในปัจจุบันก้าวกระโดด หลายประเทศจึงเริ่มวิจัยและผลักดันยกระดับประสิทธิภาพแบตเตอรี่เพื่อรองรับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
ความพยายามในการพัฒนาแบตเตอรี่ไฟฟ้าเกิดขึ้นหลายรูปแบบ ทั้งในแง่ระยะเวลาการชาร์จ ความจุ อายุการใช้งาน จนถึงความทนทาน เพื่อเบิกทางไปสู่ยุคใหม่แห่งยานพาหนะ อีกทั้งในปี 2023 การวิจัยโลหะชนิดอื่นเข้าทดแทนลิเธียมจะยิ่งเข้มข้น เพื่อเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ขาดแคลนแร่ชนิดนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
3. วัคซีน
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมาย่อมต้องเป็น วัคซีน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิดนำไปสู่การเสียชีวิตนับล้าน ทำให้เกิดการทุ่มงบประมาณและสรรพกำลังในการพัฒนาวัคซีน จนเริ่มมีการใช้งานเทคโนโลยี mRNA และนำสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติ
แต่ผลพวงการพัฒนาดังกล่าวจะทำให้ปี 2023 เกิดการพัฒนาวัคซีนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเกิดขึ้นของวัคซีนแก่โรคต่างๆ เช่น งูสวัด, เริม, มะเร็งเต้านม, มะเร็งผิวหนัง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาวัคซีนชนิดใหม่เพื่อรับมือกับโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ในอดีต ซึ่งอาจช่วยชีวิตผู้คนได้อีกมากในอนาคต
4. ปัญญาประดิษฐ์
ถือเป็นเรื่องฮือฮาในช่วงที่ผ่านมา เมื่อปัญญาประดิษฐ์ที่เข้ามามีบทบาทในงานของมนุษย์มากขึ้น ทั้ง Midjourney ที่สามารถรังสรรค์ภาพมากมายจนเป็นประเด็นในแวดวงศิลปะ และ ChatGPT ที่รอบรู้และมีศักยภาพในการตอบคำถามรอบด้าน ทำให้ผู้คนเริ่มกังวลถึงสายงานในอนาคต
แน่นอนว่าในปี 2023 ที่จะถึงนี้เอไอจะยิ่งทวีความเก่งกาจมากขึ้น จากการเรียนรู้ข้อมูลมหาศาลที่มนุษย์เป็นผู้ป้อนเข้าไป จะยิ่งทำให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถทำงานได้ตรงตามใบสั่ง และอาจเข้ามามีบทบาทในสายงานต่างๆ จนขยับขึ้นมาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของอาชีพอย่างนักวาด, ศิลปิน, นักเขียน รวมถึงโปรแกรมเมอร์กันต่อไป
5. หุ่นยนต์
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีบทบาทไม่แพ้กันคือ หุ่นยนต์ เมื่อปัจจุบันเริ่มขยับเข้ามามีบทบาทแก่มนุษย์เรามากขึ้น ทั้งการเข้ามาชดเชยการขาดแคลนแรงงานไปจนเข้ามารับบทบาทอันตรายต่างๆ นำไปสู่การคิดค้นหุ่นยนต์ตรวจสอบท่อน้ำ, หุ่นยนต์เฝ้ายาม, หุ่นยนต์สำรวจพื้นที่อันตราย ไปจนหุ่นยนต์ที่ใช้ในการผ่าตัด
ในปี 2023 การพัฒนาหุ่นยนต์จะยิ่งทวีความเข้มข้น แตกต่างจากหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารภายในร้านที่เราคุ้นเคย เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ทวีความก้าวหน้า หุ่นยนต์จะทำงานได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในไม่ช้าการมีหุ่นยนต์ช่วยงานบ้านหรือตอบสนองความต้องการทางเพศก็อาจไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
6. ควอนตัมคอมพิวเตอร์
ช่วงปีที่ผ่านมาควอนตัมคอมพิวเตอร์ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการส่งเสริมเป็นอย่างมาก บริษัทไอทียักษ์ใหญ่เร่งรัดพัฒนาควอนตัมคอมพิวเตอร์กันต่อเนื่อง มีการยกระดับศักยภาพทำลายสถิติกันอยู่ทุกปี อีกทั้งเริ่มมีการพูดถึงว่าอาจวางขายควอนตัมคอมพิวเตอร์ให้ใช้งานภายใน 5 ปีข้างหน้า
นั่นทำให้การแข่งขันในตลาดควอนตัมคอมพิวเตอร์จะยิ่งทวีความดุเดือดในปี 2023 ทั้งบริษัทไอทีชั้นนำฝั่งตะวันตกอย่าง Google และ IBM รวมถึงบริษัทไอทีจากจีน Baidu ที่เร่งพัฒนาควอนตัมตอมพิวเตอร์อาจพร้อมให้เราเข้าถึงและใช้งานในอีกไม่ช้า ไม่แน่ว่าปีหน้าเราอาจได้เห็นข่าวดีจากควอนตัมคอมพิวเตอร์ก็เป็นได้
7. การดำรงชีพในอวกาศ
ต้องยอมรับว่าปีที่ผ่านมาถือเป็นการกลับสู่อวกาศเต็มตัวของสหรัฐฯ กับโครงการอาร์เทมิสซึ่งมีจุดหมายในการพามนุษย์กลับไปบนดวงจันทร์อีกครั้ง รวมทั้งความกระตือรือร้นจากนานาประเทศทั้งจีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย ฯลฯ ไปจนบริษัทเอกชนจำนวนมากที่ให้ความสนใจในการท่องอวกาศ
นำไปสู่การแข่งขันทางอวกาศที่ทวีความเข้มข้นจากผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น และเมื่อมีการเข้ามามีบทบาทของนานประเทศ เมื่อผ่านช่วงสำรวจที่จะได้รับความสนใจไม่แพ้กันคือ เทคโนโลยีดำรงชีพในอวกาศ ที่ในปี 2023 เราอาจได้เห็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมรองรับการส่งมนุษย์อวกาศเยือนดวงจันทร์และดาวเคราะห์ดวงอื่นต่อไปในอนาคต
ที่มา
https://www.simplilearn.com/top-technology-trends-and-jobs-article