Thor Love & Thunder: 7 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ ‘เจน ฟอสเตอร์’
ชวนสำรวจเรื่องจริง 7 อย่างของ ‘เจน ฟอสเตอร์ (Jane Foster)’ หนึ่งในตัวละครหญิงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์มาเวล ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เมื่อแฟนๆเรียกร้องอยากเห็นการกลับมาของ ‘นาตาลี พอร์ทแมน’ ในบทบาทของ ‘เจน ฟอสเตอร์ (Jane Foster)’ ทางมาเวลก็จัดให้สมใจอยากและถือว่าเรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนมาเวลได้ไม่น้อยกับตัวอย่างภาพยนตร์ Thor Love & Thunder เมื่อเจนได้รับพลังครอบครองค้อนโยเนียร์อาวุธคู่กายที่เคยเป็นของธอร์มาก่อน แม้ว่าเราจะยังไม่รู้บทบาทของเธอในภาพยนตร์มากนักว่าในอนาคตผู้สร้างจะวางให้เธอไปทางไหนต่อ แต่สำหรับในคอมมิคแล้วถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญที่ช่วยให้เรารู้ว่าเธอจะเป็นยังไงต่อในอนาคต
เจน ฟอสเตอร์ ถือเป็นหนึ่งในตัวละครหญิงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์มาเวล และวันนี้เราจะพาไปสำรวจเรื่องจริงแบบลับๆ 7 อย่าง ที่บรรดาคนรักหนังอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่าหวานใจแห่งแอสการ์ดรายนี้ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา
ไม่ใช่นักดาราศาสตร์แต่เป็นหมอ
ทั้งใน Thor Love & Thunder และในจักรวาลภาพยนตร์มาเวลเรื่องอื่นๆ เราคงเห็นกันเป็นที่ประจักษ์ว่า ‘เจน ฟอสเตอร์ (Jane Foster)’ คือหนึ่งในนักดาราศาสตร์ฟิสิกส์เบอร์ต้นๆของโลก เธอรอบรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอวกาศและถือเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญเรื่องแอสการ์ด แต่กลับกัน ในส่วนของคอมมิคนั้นอาชีพของเจนคือ แพทย์ฉุกเฉิน หรือ หมอ ER นั่นเอง ซึ่งจากความสามารถและทักษะที่เต็มเปี่ยม เจน กลายเป็นหมอรักษาฮีโร่มากมาย เรียกได้ว่าฮีโร่คนไหนบาดเจ็บมา ต้องนึกถึง ‘เจน ฟอสเตอร์ (Jane Foster)’ ก่อนเป็นอันดับแรก! แน่นอนว่ารวมถึงทีม Avengers ด้วย ซึ่งในพาร์ทของ Civil Wars เจนมีส่วนสำคัญในการเป็นหมอประจำ Team Cap ด้วยเช่นกัน
ต้องสู้กับโรคมะเร็ง
แม้ภาพลักษณ์ของเจน ฟอสเตอร์ จาก Thor Love & Thunder จะทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ช่างแข็งแกร่งเบอร์แรง! แต่หรือรู้ไม่ว่าจริงๆแล้วในคอมมิค เจน ต้องเผชิญกับโรคมะเร็งเต้านมและมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ซึ่งตัวเธอเองเลือกที่จะปฏิเสธการรักษาด้วยวิธีทางเวทย์มนต์ใดๆก็ตาม จนกระทั่งในวันที่เธอได้รับพลังจากค้อนโยเนียร์ และกลายเป็น Mighty Thor ร่างกายของเธอกลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บป่วย และโรคมะเร็งที่เธอต้องเผชิญยังสามารถทุเลาลงไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นทุกครั้งที่เธอกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ อาการป่วยจากโรคมะเร็งของเธอกลับยิ่งทรุดลงไปอีก เจน ฟอสเตอร์ จึงถือเป็นหนึ่งในตัวละครที่แปลงร่างเป็นฮีโร่ได้แม้ร่างกายจะไม่สมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ตัวละครดูมีมิติและมีความเป็นมนุษย์มากกว่าตัวละครอื่น
โอดินไม่ให้การยอมรับ
โอดินอาจจะไม่ใช่คุณพ่อดีเด่นแห่งปีสักเท่าไหร่ อย่างที่เราเคยเห็นกันผ่านๆมาบ้างแล้วจากในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการให้ธอร์ลงหลักปักฐานกับผู้หญิงชาวแอสการ์ดเท่านั้น เพื่อจะรักษาสายเลือดบริสุทธิ์เอาไว้ การเข้ามาของเจน ยิ่งเปรียบเสมือนทำให้ความตั้งใจของโอดินสั่นคลอนไป แต่ในฉบับคอมมิคคุณพ่อแห่งแอสการ์ดรายนี้ร้ายยิ่งกว่า โอดินอ้างว่าหญิงที่จะครอบครองใจลูกชายของเขาได้นั้น ต้องมีค่าพอและเป็นผู้ที่คู่ควร โอดินพาเจนมายังแอสการ์ด และสร้างสารพัดบททดสอบมาเพื่อเล่นงานเธอ (แน่นอนว่าเขาออกแบบมาเพื่อไม่ให้มีใครสามารถผ่านแบบทดสอบได้) จนกระทั่งเจนพ่ายแพ้ต่อบททดสอบ เขาส่งเธอกลับมายังโลกมนุษย์และลบความทรงจำเกี่ยวกับธอร์และแอสการ์ดออกทั้งหมด แต่อีกสิบกว่าปีให้หลัง เมื่อเจนกลายเป็น Mighty Thor อย่างสมบูรณ์แบบ โอดินก็ยังไม่วายจะแย่งพลังจากค้อนโยเนียร์คืนมาอีก! เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันเลยทีเดียว
โยเนียร์เป็นฝ่ายตามหาเธอ
โยเนียร์ถือเป็นหนึ่งในอาวุธคู่กายที่ได้ใจแฟนมาเวลเป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในความพิเศษของมันคือ มีคำจารึกสลักไว้ว่า “Whosoever Holds this hammer, If he be worthy, Shall possess the power of.. Thor” หรือ ผู้ที่คู่ควรเท่านั้นที่จะยกค้อนได้และได้รับพลังแห่งธอร์ และในคอมมิค เจนไม่ได้เป็นคนที่คู่ควรกับค้อนโยเนียร์เท่านั้น แต่เธอคือผู้ถูกเลือก! ในภาคของ Thor Ragnarok เราคงยังจำกันได้ว่าค้อนโยเนียร์ ถูกเฮล่าทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่จากการปรากฎตัวขึ้นใหม่ใน Thor Love & Thunder เห็นได้ชัดว่าค้อนที่เจนถือไม่ใช่อาวุธใหม่ แต่เป็นโยเนียร์อันเดิมกับที่ถูกทำลายไป สังเกตได้จากรอยร้าวที่อยู่รอบค้อนเต็มไปหมด
เป็นหนึ่งในทีม Avenger
หลังเหตุการณ์หายนะจาก Secret Wars ศึกลับกู้จักรวาล เจนได้รับตำแหน่งที่คู่ควรท่ามกลางเหล่าวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก เธอได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับ แซม วิลสัน ในฐานะกัปตันอเมริกา, ไมล์ โมราเลส ในฐานะสไปเดอร์-แมน, มิสมาร์เวล, ไอรอน แมน, โนวา และวิชั่น หนึ่งในสิ่งที่ทำให้เจนต่างออกไปคือเธอไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงสู่สาธารณะ
ในจักรวาลหนังมาเวลเราได้เห็นสมาชิกทีม Avengers เริ่มโรยราลงไป บ้างอาจเสียชีวิต ซึ่งเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าในอนาคต เจนอาจก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Avengers ชุดต่อไปร่วมกับ แซม วิลสัน และ เคท บิชอป
แท้จริงแล้วเธอเป็นวัลคีรี (Valkyrie)
หลังจากทำหน้าที่เทพแห่งสายฟ้าได้อย่างสำเร็จลุล่วงแล้ว เจนก็เกษียณตัวเองออกจากตำแหน่งนี้ เพื่อกลับไปรักษาตัวและต่อสู้กับโรคมะเร็งของเธอตามเดิม การรบการสงครามก็ถือว่าเกิดขึ้นน้อยลงมาก แต่ ณ จุดหนึ่ง เธอต้องกลับมาสวมบทบาทของความเป็นนักรบอีกครั้ง โดยร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับธอร์เพื่อช่วยชีวิตโอดินและฟริกก้าจาก จอมเวทย์และราชาแห่งดาร์คเอลฟ์ ‘มาเลคิธ’
การต่อสู้ครั้งนี้ถือว่าเป็นการช่วยยืนยันและพิสูจน์ตัวตนของเธอว่าพิเศษและมีคุณค่ามากแค่ไหน หลังสงครามยุติวัลคีรีทั้งหมดที่ร่วมต่อสู้ได้เสียชีวิตลง ‘บรุนฮิลด์’ จิตวิญญาณแห่งวัลคีรี จึงส่งต่อตำแหน่งนี้ให้กับเจน และแน่นอนว่าเธอตอบรับ! หลังได้รับพลังจากเหล่าวัลคีรี เจนใช้พลังที่ได้มาปกป้องแอสการ์ดและอาณาจักรทั้ง 9 ได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ซึ่งคาดว่าหากแฟนๆได้เห็นช็อตนี้ในภาพยนต์อาจสร้างความประทับใจได้ไม่มากก็น้อย
ควบคุมโยเนียร์ได้แบบไม่เป็นสองรองใคร
อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่ามีแต่ผู้ที่คู่ควรเท่านั้นถึงจะควบคุมโยเนียร์ได้ ด้วยพลังที่เจนกับโยเนียร์สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างเป็นเอกลักษณ์ เจนจึงสามารถควบคุมอาวุธคู่กายชนิดนี้ได้ดีกว่าผู้ใช้โยเนียร์คนอื่นๆที่เคยมีมา เธอสามารถควบคุมได้ในชนิดที่ว่า แม้แต่ธอร์เองที่เป็นเจ้าของคนก่อนหน้ายังไม่สามารถทำได้! ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมความเร็ว ควบคุมวิถีของโยเนียร์ในขณะที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ รวมถึงใช้เป็นเกราะป้องกันได้ ซึ่งคาดว่าเธอได้เรียนรู้ทักษะเหล่านี้จากการเฝ้าดูธอร์มาตลอดหลายปี การใช้งานจึงมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในตัวอย่างภาพยนตร์ Thor Love & Thunder เอง ก็มีฉากที่เจนสามารถแยกชิ้นส่วนของโยเนียร์ออกเป็นเสี่ยงๆได้ แถมยังประกอบคืนใหม่ได้แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนอีกด้วย!
ในภาพยนตร์ Thor Love & Thunder คาดว่าจะมีบางส่วนที่ดึงความโดดเด่นของเจนในคอมมิคมาประกอบด้วย ส่วนเนื้อหาจะตื่นเต้น และสร้างความประทับใจให้แฟนๆมาเวลได้มากน้อยแค่ไหน คงต้องไปติดตามดูกันเอาเอง เพราะของแบบนี้สิบปากว่าไม่เท่าเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ
ข้อมูลอ้างอิง:


