Next to know? การค้นพบครั้งสำคัญต่อ PTSD และการรักษาที่ไม่ต้องพึ่งจิตแพทย์
PTSD อาการทางจิตเวชที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องทรมานจากโรคนี้และอาจต้องทนต่อไปชั่วชีวิต แต่ปัจจุบันแนวทางการรักษา PTSD กำลังเข้าสู่มิติใหม่ จากการค้นพบครั้งสำคัญที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าโรคนี้ไปโดยสิ้นเชิง
หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องอาการ PTSD หนึ่งในการเจ็บป่วยทางจิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน อีกทั้งขั้นตอนการรักษาก็ไม่ง่ายนัก จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้นยาวนาน อีกทั้งผลการบำบัดก็ไม่สามารถยืนยันได้เสมอไปว่าผู้ป่วยจะหายขาด สร้างผลกระทบระยะยาวแก่ทั้งตัวผู้ป่วยและคนรอบข้าง
อาการ PTSD ไม่เหมือนอาการทางจิตเวชทั่วไปที่มักส่งต่อผ่านทางพันธุกรรม มีความเสี่ยงสูงสำหรับผู้มีอาการเดียวกันนี้ในสายเลือดเดียวกันแต่ไม่มีความเสี่ยงนักแก่คนนอกสายเลือด นี่เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคน หากมีสิ่งกระทบกระเทือนจิตใจคนเรามากพอ จึงถือเป็นหนึ่งในโรคอันตรายมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
ปัจจุบันแนวทางการรักษาได้ผลเริ่มถูกคิดค้นขึ้นมารองรับ เพื่อบรรเทาและรักษาอาการ PTSD มีการพัฒนามามากขึ้น ไม่ใช่แค่ในเชิงจิตเวชแต่เริ่มขยับขึ้นมาเป็นการพัฒนาเครื่องมือการแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการป่วย จนนำไปสู่การค้นพบครั้งสำคัญเกี่ยวกับอาการ PTSD
แต่ก่อนอื่นคงต้องอธิบายกันก่อนว่าแท้จริงอาการ PTSD คืออะไร?
PTSD อาการผิดปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน
PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder เป็นสภาวะเจ็บป่วยทางจิตที่เกิดขึ้นหลังประสบเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ โดยอาจประสบเรื่องร้ายแรงในชีวิตจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ อาชญากรรม สงคราม ฯลฯ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับตัวผู้ประสบเหตุ ผู้พบเห็นเหตุการณ์ จนถึงคนใกล้ชิดผู้ประสบเหตุเองก็ตาม
สิ่งที่เกิดขึ้นจะกลายภาพฝังลึกนำไปสู่บาดแผลทางจิตใจ ส่งผลกระทบต่างกันออกไปในแต่ละคน โดยปกติแล้วเมื่อเจอเหตุการณ์ร้ายแรงอาจนำไปสู่โรคเครียดเฉียบพลันหรือ Acute Stress Disorder (ASD) ในระยะนี้มักเกิดขึ้นหลังประสบเหตุการณ์ร้ายแรงในช่วงแรก แต่หากอาการนี้อยู่กับผู้ประสบเหตุนานกว่า 1 เดือน จึงจะเรียกว่าอาการ PTSD
อาการหลักของโรค PTSD มีอยู่ 4 รูปแบบ ได้แก่
- เห็นภาพเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นซ้ำๆ แม้จะอยู่ในที่ปลอดภัยรอดพ้นจากเรื่องพวกนั้นแล้ว แต่ผู้ป่วย PTSD จะมองเห็นภาพความทรงจำและความรู้สึกตามมาหลอกลอนวนเวียนภายในหัว สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในความฝันรวมถึงภาพหลอน จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- หลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นให้นึกถึงเหตุการณ์ ผู้ป่วย PTSD จะหลีกเลี่ยงพาตัวเองเข้าไปในสถานที่ หรือเรื่องที่ทำให้นึกย้อนถึงเหตุการณ์ฝังใจ เช่น ถ้าเคยเจอน้ำท่วมอาจหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำ ถ้าประสบอุบัติเหตุจะหลีกเลี่ยงการนั่งบนรถแบบเดียวกัน รวมถึงพยายามไม่พูดถึงเหตุการณ์และบุคคลที่ไปกระตุ้นแผลในใจ
- มีอาการตื่นตัวมากเกินไป ผู้ป่วย PTSD จะมีอาการตกใจง่ายโดยเฉพาะเมื่อเจอสิ่งกระตุ้นแผลในใจ นำไปสู่ความหวาดกลัวและวิตกกังวลอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมจนถึงอารมณ์ของผู้ป่วยให้นอนไม่หลับ ก้าวร้าว ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย อ่อนไหวยิ่งขึ้น จนอาจเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน
- เมื่อเกิดอาการที่กล่าวขึ้นข้างต้นมากเข้า จะทำให้ผู้ป่วย PTSD ตกอยู่ในอารมณ์เชิงลบและหม่นหมอง ทำร้ายสุขภาพจิตนำไปสู่โรคทางจิตประเภทอื่น เช่น มองโลกในแง่ร้าย ซึมเศร้า รู้สึกผิด คิดว่าตัวเองไร้ค่า นำไปสู่สภาวะวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ อาจนำไปสู่การติดสารเสพติดจนถึงการฆ่าตัวตายได้ในอนาคต
ด้วยเหตุนี้เอง PTSD จึงถือเป็นอาการทางจิตร้ายแรงที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทำให้เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแนวโน้มผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น อีกทั้งเราไม่สามารถหาทางป้องกันเหตุร้ายและจิตใจเราได้ล่วงหน้า ดังนั้นการหาทางรักษาอย่างมีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญ
การรักษาในปัจจุบันยังคงใช้วิธีการบำบัดทางจิตให้คนไข้ปรับตัวทีละเล็กละน้อย เน้นการพูดคุยสร้างความเข้าใจ และขจัดความรู้สึกฝังใจเหล่านั้นออก ให้คนไข้ PTSD สามารถเอาชนะแผลใจที่เกิดขึ้นได้เอง ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีการนี้ อีกทั้งเริ่มมีอาการดื้อยาเพิ่มมากขึ้นด้วย
แต่ในปัจจุบันการรักษา PTSD กำลังจะก้าวไปอีกขั้น จากการใช้การบำบัดด้วยออกซิเจนเพื่อทำการรักษา
การรักษาคนไข้ผ่านเครื่องบำบัดออกซิเจน และการค้นพบครั้งใหม่ต่อ PTSD
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นในมหาลัย Tel Aviv University ประเทศอิสราเอล ประสบความสำเร็จจากการบำบัดผู้ป่วย PTSD ด้วยแนวทางที่ไม่ใช่จิตเวช แต่อาศัยเครื่องบำบัดด้วยออกซิเจนแก่ผู้ป่วย PTSD จำนวน 18 คน จากคนไข้อดีตทหารผ่านศึกที่ต้องทรมานกับโรคนี้ยาวนานกว่า 4 ปี อีกทั้งไม่สามารถฟื้นตัวได้จากการรักษาในคลินิกและการรวมกลุ่มบำบัด
คนไข้กลุ่มนี้ถูกพาตัวมารักษาภายในห้องออกซิเจนแบบไฮเปอร์บาริกซึ่งไม่เคยทำที่ไหนมาก่อน โดยต้องเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์ เป็นจำนวน 60 ครั้ง จากนั้นจึงประเมินอาการด้วยการวินิจฉัยจากแพทย์และการสแกนสมอง ก่อนพบว่าวิธีการนี้ให้ผลลัพธ์น่าพอใจอย่างยิ่ง ภายหลังการบำบัดจำนวนผู้ป่วยกว่าครึ่งหายขาดจากอาการ PTSD
ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่จนมีการตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ journal PlosOne จากการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ชีววิทยาทำการรักษาอาการทางจิตเวชได้สำเร็จ แน่นอนว่าความลับของเรื่องนี้ย่อมเกิดจาก การรักษาภายในออกซิเจนความเข้มข้นสูง นำไปสู่การตรวจสอบการตรวจสอบโดยละเอียด
สิ่งที่ค้นพบจากการสแกนสมองคือ ออกซิเจนความเข้มข้นสูงที่ใช้ในการรักษา ช่วยเพิ่มความยืดหยุนรวมถึงรักษาบาดแผลภายในเนื้อเยื่อสมอง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของสเต็มเซลล์ในร่างกาย ทำให้เนื้อเยื่อสมองสามารถได้รับการฟื้นฟู มีการสร้างเนื้อเยื่อและหลอดเลือดขึ้นใหม่ จนสามารถกลับมาทำงานเป็นปกติได้อีกครั้ง
นำไปสู่ข้อสรุปว่า แท้จริงอาการ PTSD คืออาการบาดเจ็บทางกายภาพที่เกิดขึ้นกับเนื้อเยื่อสมอง จากการถูกกระตุ้นด้วยประสบการณ์เลวร้ายทำให้สมองไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ส่งผลโดยรวมต่อการคิด ประมวลผล และตัดสินใจ ทำให้สมองอยู่ในสภาวะตื่นตัวตลอดเวลา นำไปสู่อาการ PTSD ที่เกิดขึ้น
ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ความพยายามในการบำบัดรักษาทางจิตวิทยาแก่ผู้ป่วย PTSD ที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ อาการบาดเจ็บขัดขวางรูปแบบการรักษา เนื่องจากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นทางกายภาพ จำเป็นต้องให้ได้รับการฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่เสียหายขึ้นมา เมื่อสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้คนไข้จำนวนมากจึงหายเป็นปกติ
ซึ่งอาจเป็นคำตอบว่าทำไมในรายที่อาการ PTSD ไม่ร้ายแรง สามารถหายหรือฟื้นฟูตัวเองได้ในเวลาไม่นาน เพราะเมื่อปล่อยทิ้งช่วงเวลาไปสักระยะ ให้เนื้อเยื่อสมองได้รับการฟื้นฟูอาการจึงทุเลาลง แต่สำหรับผู้ที่มีความเสียหายมากกว่า การบำบัดด้วยออกซิเจนถือเป็นทางเลือกช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากโรคร้ายนี้
แน่ล่ะว่านี่คือการค้นพบครั้งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ทุกข์ทรมานจากอาการ PTSD กลับมาเป็นปกติได้สำเร็จ โดยในสหรัฐฯจำนวนผู้ป่วย PTSD มีมากถึง 3.5% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ อีกทั้ง 10% ในจำนวนนี้ยังต้องทุกข์ทรมานกับอาการไปชั่วชีวิต แต่คนเหล่านี้จะกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อมีการคิดค้นพัฒนาเครื่องมือแก่ผู้ป่วยประเภทนี้โดยเฉพาะ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นโครงการที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่ก็ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ต่อโรค PTSD ได้มากมายทีเดียว
ที่มา
https://www.doctorraksa.com/th-TH/blog/posttraumatic-stress-disorder.html
https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/PTSD
https://www.psychiatry.org/patients-families/ptsd/what-is-ptsd
https://www.jpost.com/health-and-wellness/article-698327


