"หนังวีแกน" ทางออกของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ไม่ทำร้ายโลก
เทรนด์แฟชั่นกำลังเปลี่ยนไป ทำไมหลายแบรนด์ดังระดับโลก หรือแม้แต่ตัวผู้บริโภคเองถึงให้ความสนใจกับ "หนังวีแกน" และคำตอบที่ว่าหนังวีแกนไม่ทำร้ายโลกจริงหรือไม่?
อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ขึ้นชื่อว่าใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองที่สุดในโลก มนุษย์ส่วนใหญ่มักผลิตสินค้ามามากกว่าจำนวนที่ต้องการ และยิ่งแย่ไปกว่านั้น มนุษย์มักทิ้งสิ่งของนั้นไป เพียงแค่ใส่ หรือใช้ไปไม่กี่ครั้ง มีงานวิจัยเผยว่า มนุษย์จะทิ้งขยะแฟชั่นเฉลี่ยปีละ 70 ปอนด์ หรือ 31.75 กิโลกรัมต่อคน นั้นหมายความว่า หากลองคำนวณแค่จำนวนประชากรไทย 69 ล้านคน แปลว่าต่อปี แค่เฉพาะคนไทยก็ทิ้งขยะแฟชั่นไปมากกว่า 2 ล้านตัน และถ้าหากลองนับไปทั่วโลกจะมีขยะแฟชั่นจำนวนมหาศาลแค่ไหน?
นั้นจึงส่งผลให้เทรนด์ธุรกิจแฟชั่นหลากหลายแบรนด์ในตอนนี้เริ่มหันมาใส่ใจโลกกันมากขึ้น สังเกตได้จากหลายแบรนด์ดังจากทั่วโลกต่างพากันผลิตสินค้าที่มาจากวัสดุธรรมชาติ หรือที่เรารู้จักในนามว่า “หนังวีแกน” ,“หนังมังสวิรัติ” หรือ Vegan Leather มาใช้ เพื่อลดปัญหาด้านขยะ และกระบวนการผลิต รวมไปถึงการไม่ทำร้ายสัตว์อีกด้วย
“หนังวีแกน” วัสดุที่เลียนแบบหนัง แต่สร้างขึ้นจากผลิตภัณฑ์เทียม หรือทำมาจากพลาสติก หรือผลิตภัณฑ์จากหลากหลายพืช อาทิเช่น ใบสับปะรด ไม้คอร์ก เปลือกแอปเปิ้ล เห็ด กระดาษ กากองุ่น เป็นต้น เรียกได้ว่าหนังวีแกนเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการนำมาใช้เพื่อทดแทนหนังสัตว์ เพราะไม่ทำร้ายสัตว์ ช่วยลดการฆ่า หรือทำร้ายสัตว์ เพื่อที่จะมาทำเป็นสินค้า
แบรนด์ดังระดับโลกเริ่มขยับตัวใช้ “หนังวีแกน”
- วัสดุเส้นใยจากเห็ด
Hermes
แบรนด์แฟชั่นเครื่องหนังสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง Hermes ได้จับมือกับบริษัทสตาร์อัพ MycoWorks จากแคลิฟอร์เนีย ประเทศอเมริกา เพื่อคิดค้นกระเป๋าหนังที่ทำจากเห็ด ที่ยังคงความหรูในแบบของ Hermes เอง ทั้งสองได้ร่วมงานกันกว่า 3 ปี เพื่อพัฒนาเนื้อผ้าจากไมซีเลียม (หรือเห็ด) ให้กลายเป็นแผ่นหนังที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตเครื่องหนังต่างๆ โดยยังมีความคงทน แข็งแรง และมีคุณภาพที่สูงแบบเดียวกับหนังสัตว์ รวมไปถึงยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าหนังเทียมที่ผลิตจากพลาสติก PU อีกด้วย โดยทางแบรนด์ใช้ชื่อเรียกหนังชนิดนี้ว่า 'Sylvania' ก่อนจะถูกนำไปใช้ทดลองผลิตจริงกับสินค้าสุดคลาสสิกอย่างกระเป๋ารุ่น Victoria
ที่มา : Hermes
สำหรับกระเป๋ารุ่น Victoria ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 1997 จากการเป็นกระเป๋าดีไซน์เรียบง่ายทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เหมาะกับการเดินทาง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำตกวิกตอเรีย ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อของประเทศแซมเบีย และประเทศซิมบับเว
Adidas
แบรนด์กีฬาระดับโลกอย่าง Adidas ก็ได้เผยนวัตกรรมสุดเจ๋ง “รองเท้าจากเห็ด” จากการผลิตรองเท้าในรุ่น Stan Smith (The Stan Smith Mylo) ที่เป็นรุ่นยอดนิยมของใครหลายๆ คน และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Adidas ใช้วัสดุจากพืช เพราะในปี 2019 Adidas ได้ผลิตรองเท้ากีฬา FUTURECRAFT.LOOP ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล 100% อีกทั้งยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และที่ผ่านมา Adidas ก็แสดงให้เห็นว่ามีความตระหนักในปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องขยะพลาสติกจากการผลิตรองเท้า รวมไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง
การจับมือกับค่าย Allbirds ผลิตรองเท้ารักษ์โลก เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา โดยโปรเจ็คนี้ ทั้ง Adidas และ Allbirds บอกว่า จะใช้แต่พลาสติกรีไซเคิลเท่านั้น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศให้ได้ (อุตสาหกรรมการผลิตรองเท้า มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศมากถึง 700 ล้านตันต่อปี) ซึ่งทั้งสองบริษัทตั้งเป้าว่าจะทำให้สำเร็จภายในปี 2024
นอกเหนือไปจากนั้น Lululemon แบรนด์ชุดออกกำลังกายสัญชาติแคนาดา และ Kering ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Gucci และ Yves Saint Laurent และอีกหลากหลายแบรนด์หรู ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่า มีแพลนในอนาคตที่จะนำหนังที่ทำมาจากเห็ดมาใช้เช่นกัน
- วัสดุจากเส้นใยเปลือกแอปเปิ้ลรีไซเคิล
Tommy Hilfige
แบรนด์แฟชั่นวัยรุ่นอเมริกันอย่าง Tommy Hilfiger ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่กำลังเริ่มสำรวจวิธีการแก้ไขปัญหานี้ ผ่านการใช้เทคโนโลยีจากเส้นใยของเปลือกแอปเปิ้ลมาผลิตเป็นรองเท้าผ้าใบ เพื่อเป็นอีกทางเลือกที่ใช้หนังชีวภาพที่ได้จากของเสียในอุตสาหกรรมการทำฟาร์มแอปเปิ้ลมาใช้
ที่มา : Tommy Hilfiger
และในปีที่ผ่านมา Tommy Hilfiger ได้ออกรองเท้าผ้าใบรุ่น ‘Apple Skin’ ในคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน โดยครั้งนี้ เกิดจากการร่วมงานของทั้งสองบริษัทอย่าง Tommy Hilfiger และ Frumat บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติอิตาลีเกี่ยวกับการพัฒนาวัตถุดิบจากขยะในอุตสาหกรรม รองเท้าผ้าใบรุ่นนี้ใช้หนังทางเลือกที่ทนทาน และมีความหนา ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นใยผิวแอปเปิ้ลรีไซเคิล จุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้คือ ตัวด้านล่างของพื้นรองเท้าจะมีส่วนผสมของเส้นใยผิวแอปเปิ้ลรีไซเคิล ที่มีลักษณะเป็นจุดสีต่างๆ อยู่บนบริเวณขอบรองเท้า การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นการก้าวขาเข้ามาสู่ประตูแห่งแฟชั่นที่ยั่งยืนของ Tommy Hilfiger ที่ทำเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- วัสดุจากกากองุ่น
Vegea
บริษัทน้องใหม่ก่อตั้งขึ้นที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี มาตั้งแต่ปี 2016 เน้นพัฒนาวัสดุชีวภาพสำหรับใช้ในวงการแฟชั่น เฟอร์นิเจอร์ บรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และขนส่งมวลชน โดยเป็นการหาสมดุลระหว่างเคมีภัณฑ์ และพืชผลทางการเกษตรในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การเติบโตของ Vegea ได้มาตราฐานจนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในพาทเนอร์แบรนด์ดังระดับโลกอย่าง H&M ในการผลิตกระเป๋า และรองเท้า อีกทั้งยังได้จับมือร่วมกับแบรนด์รถยนต์สุดหรูของประเทศอังกฤษอย่าง Bentley ที่ใช้หนังจาก Vegea มาบุภายในรถเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์อีกด้วย
ที่มา : Vegea
ทั้งนี้จากแบรนด์ข้างต้นที่ได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ดังระดับ Hi-End อย่าง Hermes หรือแบรนด์อุปกรณ์กีฬาอย่าง Adidas และ Tommy Hilfiger ก็ได้เริ่มพัฒนาสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดของแบรนด์ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งตัวผู้บริโภคเองที่ในตอนนี้เริ่มหันมาให้ความสนใจกับเทรนสิ่งแวดล้อม ทั้งการกินอาหาร การใช้เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า รวมไปถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน


