มาริษเตือนรัฐบาลไทยอย่าพลาดท่าเกมกัมพูชาแนะใช้โลกล้อมตีกลับ

ท่ามกลางไฟความตึงเครียดรอบใหม่บนพรมแดนไทย–กัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาเตือนสังคมไทยถึง “ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์” ที่กำลังก่อตัวจากทั้งการละเมิดอธิปไตยภาคสนาม และสงครามข้อมูลบนเวทีโลก โดยชี้ว่าไทยมีสิทธิ์ตอบโต้และปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ แต่ต้องไม่หลงไปกับอารมณ์แข็งกร้าวที่ไม่มีความจำเป็น — เพราะอาจเป็นกับดักที่ทำให้ไทยกลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทน

รายงานจากกองทัพบกชี้ชัดถึงพฤติกรรมของกัมพูชา ทั้งการรื้อรั้วลวดหนามและลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย อันเป็นเขตอธิปไตยไทยโดยสมบูรณ์ จนทำให้ทหารไทยบาดเจ็บ 4 นาย แต่แทนที่กัมพูชาจะรับผิดชอบ กลับเร่งเดินเกมสื่อสารมวลชนกล่าวหาว่าไทย “ยิงก่อน” และถึงขั้นอ้างว่าไทย “วางทุ่นระเบิดทำร้ายทหารตัวเอง” เพื่อสร้างเรื่องเล่าใหม่บนเวทีโลก พร้อมยื่นฟ้องไทยในหลายสถาบันระหว่างประเทศ

มาริษชี้ว่านี่คือความพยายาม “เปลี่ยนสถานะผู้ละเมิดให้เป็นผู้ถูกกระทำ” ซึ่งไทยไม่ควรปล่อยให้เกิดซ้ำเหมือนในอดีต ขณะเดียวกัน เขาแสดงความกังวลต่อถ้อยคำแข็งกร้าวของนายกฯ อนุทิน ที่ปฏิเสธการหารือกับมิตรประเทศ เพราะอาจยิ่งทำให้ไทยถูกโดดเดี่ยว และปล่อยให้กัมพูชาสร้างภาพฝ่ายเดียวโดยไร้การโต้กลับ

ข้อเสนอเร่งด่วนของเขามีสี่ส่วนสำคัญ ตั้งแต่การประกาศประณามอย่างเป็นทางการ การเดินเกมการทูตเชิงรุกกับอาเซียน–UN การใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อปกป้องทหารไทย และการจัดการต้นตออย่างแก๊งสแกม–อาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงตัวจริงของความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ

สุดท้าย มาริษเตือนชัดว่า “ปกป้องอธิปไตยได้ แต่ต้องทำอย่างมีวุฒิภาวะทางการทูต” ไทยต้องไม่ยอมให้กัมพูชาหมุนเกมจนกลายเป็นผู้ถูกรังแกบนเวทีโลกอีกครั้ง และต้องไม่ผลักพันธมิตรให้ออกห่าง หากต้องการให้ยุทธศาสตร์ “โลกล้อมกัมพูชา” กลับมาได้ผลเหมือนเมื่อครั้งอดีต.