เปิดแฟ้มครม. 11พ.ย.68 รับทราบตั้ง AMC แก้หนี้ NPLs รายย่อย

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธาน มีวาระสำคัญด้านเศรษฐกิจและเกษตรกรรมหลายเรื่อง โดยเฉพาะการจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อแก้หนี้เสียของประชาชนรายย่อย และการพิจารณามาตรการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิตในประเทศ

AMC แก้หนี้รายย่อย “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้”

กระทรวงการคลังเสนอให้ครม.รับทราบโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกของบริษัทบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) เพื่อบริหารจัดการหนี้เสีย (NPLs) ของลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ไม่เกิน 100,000 ล้านบาท โดยแนวทางดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) แล้วก่อนหน้านี้

โครงการนี้มุ่งช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีภาระหนี้สะสมจากวิกฤตเศรษฐกิจ และไม่สามารถเข้าถึงกลไกฟื้นฟูทางการเงินของสถาบันการเงินได้ โดยจะมีการซื้อหนี้จากเจ้าหนี้สถาบันเข้ามาบริหารจัดการ และให้ลูกหนี้สามารถปิดบัญชีในเงื่อนไขพิเศษ ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะร่วมกับกระทรวงการคลังแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ “โครงการปิดหนี้ไว ไปต่อได้”
 

นบขพ.เสนอมาตรการนำเข้ากากถั่วเหลือง-ปลาป่น

คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เสนอแนวทางบริหารจัดการนำเข้าสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น กากถั่วเหลืองและปลาป่น เพื่อป้องกันปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน และรักษาเสถียรภาพราคาในตลาดภายในประเทศ โดยจะใช้มาตรการนำเข้าภายใต้โควตาและระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่กระทบต่อเกษตรกรผู้ผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ

วาระอื่นเพื่อพิจารณาและรับทราบ

ครม.ยังมีการพิจารณาเรื่องต่ออายุบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทย-ออสเตรเลีย ว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (MoU SECA) และการให้การยอมรับพิธีสารแก้ไขความตกลงมาร์ราเกช เพื่อผนวกความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนประมงเข้าเป็นส่วนหนึ่งขององค์การการค้าโลก (WTO)

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขยายเวลาและเพิ่มวงเงินก่อสร้างโครงการอุโมงค์ส่งน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขออนุมัติยกเว้นการชะลอการจัดซื้อจัดจ้างระบบคลาวด์ (Cloud) เพื่อรองรับระบบข้อมูลภาครัฐ

ขณะเดียวกัน สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (อว.) เสนอกรอบงบประมาณบูรณาการปี 2570 ด้านการอุดมศึกษาและนวัตกรรม เพื่อพัฒนากำลังคนตามยุทธศาสตร์ประเทศ

ในส่วนวาระแต่งตั้ง ครม.พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการระดับทรงคุณวุฒิในหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ และสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพชุดใหม่

การประชุม ครม. ครั้งนี้จึงถือเป็นการวางกลไกเชิงโครงสร้างเพื่อฟื้นฟูหนี้รายย่อยและสนับสนุนระบบเศรษฐกิจฐานราก พร้อมขับเคลื่อนมาตรการเกษตรและอุตสาหกรรมให้เดินหน้ารับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจในปี 2569