"อภิสิทธิ์"เผยเคยฝากนายกฯอนุทินยกเลิก MOU43-44 ระวังข้อมูลรั่ว
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ชี้ยกเลิก MOU 43-44 ต้องรอบคอบ หวั่นกัมพูชารู้ข้อมูลไทยพร้อมกัน แนะรัฐบาลต้องให้ข้อมูล–ทางเลือกชัด ก่อนทำประชามติ
KEY
POINTS
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเสนอให้นายกรัฐมนตรีระมัดระวังการดำเนินการเรื่อง MOU 43-44 และแนะให้ไทยดำเนินนโยบายเชิงรุกทางการทูต
- เตือนว่าการทำประชามติเพื่อยกเลิก MOU อาจทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลไปถึงกัมพูชา ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา
- ย้ำว่าหากจะยกเลิก MOU รัฐบาลจำเป็นต้องชี้แจงแผนและยุทธศาสตร์ใหม่ที่จะใช้ทดแทนให้ประชาชนทราบอย่างชัดเจน
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายรัฐบาลต่อปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า กองทัพยังปฏิบัติภารกิจได้ดีและได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน แต่ปัญหาชายแดนไม่ควรแก้ด้วยกองทัพฝ่ายเดียว ต้องเดินควบคู่กับการทูตและนโยบายต่างประเทศ พร้อมเตือนว่าการเมืองควรสนับสนุนการทำงานของกองทัพ ไม่ใช่สร้างความสับสน
นายอภิสิทธิ์เผยว่า เคยฝากข้อเสนอถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ระมัดระวังในการดำเนินการเรื่อง MOU 43-44 เพราะกัมพูชาใช้ทุกเวทีระหว่างประเทศอย่างเชิงรุก ไทยจึงไม่ควรตั้งรับ แต่ควรดำเนินการเชิงรุก เพื่อให้กองทัพทำงานได้ง่ายขึ้นและป้องกันแรงกดดันทางการทูต
“เรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน หากจะทำประชามติยกเลิก MOU รัฐบาลต้องให้ข้อมูลครบถ้วน เพราะเมื่อเปิดเผยข้อมูล กัมพูชาก็จะรู้พร้อมกับเรา ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อการเจรจา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ย้ำว่า หากจะยกเลิกจริง รัฐบาลต้องชี้ให้ประชาชนเห็นทางเลือกและยุทธศาสตร์ใหม่ ว่าหลังไม่มี MOU แล้ว ประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไร เพราะการเสนอเพียง “ให้ยกเลิกหรือไม่” โดยไม่มีแผนทดแทน จะไม่เป็นธรรมกับประชาชนและอาจกระทบความมั่นคงในระยะยาว.


