เปิดมติเอกฉันท์ 5–0 องค์คณะศาลฎีกา สั่งบังคับโทษ ‘ทักษิณ’ คุก 1 ปี

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีชั้น 14 เวลา 10.00 น. วันที่ 9 ก.ย. 2568 วินิจฉัยให้บังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร ต่อไปอีก 1 ปี โดยระบุว่าเวลาที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจไม่นับเป็นวันคุมขัง และการส่งตัวออกไปรักษานอกเรือนจำไม่ถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย
 

ศาลชี้มีอำนาจไต่สวนการบังคับโทษตามข้อกำหนดปี 2561 แม้กรมราชทัณฑ์จะมีอำนาจตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ มาตรา 55 แต่ต้องอยู่ภายใต้การตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้จากข้อเท็จจริง พยานรวม 31 ปาก ชี้ว่าอาการป่วยคืน 22 ส.ค. 2566 อยู่ในขอบเขตที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์สามารถดูแลได้ ไม่จำเป็นต้องส่งออกฉุกเฉิน อีกทั้งขั้นตอนรับตัวที่ รพ.ตำรวจไม่ได้ผ่านห้องฉุกเฉินตามระเบียบ และไม่มีการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจทันที
 

ศาลระบุว่าอาการเรื้อรังสามารถรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ ขณะที่การผ่าตัดที่เกิดขึ้น (เช่น นิ้วล็อก-เอ็นไหล่) ไม่เกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินตามที่อ้าง จึงเห็นว่า “การบังคับโทษไม่ชอบด้วยกฎหมาย” เวลาพัก รพ. ไม่นำมาหักโทษ และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ 31 ส.ค. 2566 ลดโทษเหลือ 1 ปี จึงต้องรับโทษจำคุกตามที่เหลือต่อไปอีก 1 ปี

แหล่งข่าวศาลยุติธรรมย้ำว่า หากมติเป็นเอกฉันท์จะไม่ระบุคะแนนไว้ในคำสั่ง ดังนั้นเมื่อคำสั่งวันนี้ไม่ลงมติย่อมหมายถึง “เอกฉันท์ 5–0” สำหรับองค์คณะประกอบด้วย 1) นายฉัตรชัย ไทรโชต 2) นายอดุลย์ อุดมผล 3) นายไตรรัตน์ แก้วศรีนวล 4) นางสุพิชญ์ กรอบคำ และ 5) นายพัฒนไชย ยอดพยุง