บิ๊กเล็กหวังกัมพูชาทำตามข้อตกลงGBCจี้เร่งกู้ศพทหารปะทะชายแดน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ณ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)ที่ประเทศมาเลเซียว่า มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน โดยได้ส่งรายละเอียดให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พิจารณาแล้ว

นอกจากนี้ มีการยกเลิกการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ในวันที่ 2 สิงหาคม เพื่อเตรียมตัวสำหรับการประชุม GBC โดยเฉพาะ การประชุมนี้คาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน แต่จะมีการประชุมเพียงครึ่งวันในวันที่ 6 สิงหาคม เพื่อนำประเด็นต่าง ๆ กลับมาให้ สมช. เห็นชอบอีกครั้ง ก่อนที่ตัวเขาจะเดินทางไปสรุปและลงนามในวันที่ 7 สิงหาคม

พล.อ.ณัฐพล กล่าวถึงการประชุมกลาโหม 3 ฝ่ายเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ซึ่งได้มีการชี้แจงประเด็นเชลยศึก หลังจากที่ฝ่ายกัมพูชาได้เรียกร้องให้ปล่อยตัว โดยได้ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้ดูแลเชลยศึกเป็นอย่างดีตาม อนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 1 และอนุญาตให้คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) เข้ามาตรวจสอบแล้ว ซึ่ง ICRC ก็พอใจกับการดูแลของไทย 
พล.อ. ณัฐพล ยืนยันว่าการปฏิบัติงานของไทยเป็นไปตามกฎหมายทุกขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้อย่างโปร่งใส แม้จะมีประชาชนบางส่วนกังวลว่าไทยจะ "สุภาพบุรุษเกินไป" แต่เชื่อว่าทำเช่นนี้จะช่วยให้ไทยไม่ถูกตำหนิจากนานาชาติ

นอกจากนี้ ในการประชุมกลาโหม 3 ฝ่าย ยังได้มีการหารือถึงกรณีที่พบศพทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมากในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งอยู่หน้าแนวป้องกันของไทย พล.อ. ณัฐพล ยืนยันว่าฝ่ายไทยได้รวบรวมและส่งศพกลับไปอย่างสมเกียรติและปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธว่าผู้เสียชีวิตไม่ใช่ทหารของตนเอง

พล.อ.ณัฐพลได้เน้นย้ำกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาถึงความจำเป็นในการเร่งเก็บศพกลับไปอย่างถูกสุขลักษณะและสมเกียรติ เพราะนอกจากจะเป็นการให้เกียรติทหารที่เสียชีวิตแล้ว การปล่อยศพทิ้งไว้นานยังอาจทำให้เกิดโรคระบาดและส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ได้

พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่าแม้จะเป็นคู่กรณีกัน แต่เมื่อมีทหารเสียชีวิตก็ต้องให้เกียรติและดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี โดยขอให้สื่อมวลชนช่วยทำความเข้าใจและสื่อสารไปยังรัฐบาลกัมพูชาให้ดูแลทหารของตนที่เสียชีวิตด้วยความเคารพ แม้ว่าในขณะนี้รัฐบาลกัมพูชาจะเริ่มยอมรับแล้ว แต่ก็ยังปฏิเสธอยู่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง