posttoday

ศาลฎีกาฯรับไต่สวนเองคดีทักษิณรักษาตัวชั้น14รพ.ตำรวจ

30 เมษายน 2568

ศาลฎีกาฯตีตกคำร้องชาญชัย มีคำสั่งรับไต่สวนเองคดีทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวชั้น14รพ.ตำรวจ นัดพร้อมคู่ความ 13มิถุนายน 2568

เมื่อวันที่ 30เมษายน 2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้อ่านคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ บ.ค.1/2568 ซึ่งมีประเด็นเกี่ยวกับ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร จำเลย ในคดีที่อัยการสูงสุดและคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ เป็นโจทก์ โดยมี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เป็นผู้ร้อง

นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลลงวันที่ 19 ธันวาคม 2566และวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 พร้อมทั้งขอให้ไต่สวนการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551, อม.10/2552 (จำเลยที่ 1) และ อม.5/2551ตามคำร้องฉบับลงวันที่10 มกราคม 2568
 

ศาลฎีกาฯ พิจารณาคำร้องและเอกสารแล้ว เห็นว่า นายชาญชัยไม่ใช่คู่ความในคดีดังกล่าว และไม่ใช่ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายโดยตรงจากการบังคับโทษจำคุก จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลในชั้นบังคับคดี

อย่างไรก็ตาม ศาลฎีกาฯ ได้เล็งเห็นถึงประเด็นที่สำคัญว่า อาจมีการบังคับโทษที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด จึงมีอำนาจที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ เพื่อให้การบังคับโทษเป็นไปตามกฎหมาย

ดังนั้น ศาลจึงสั่งให้ส่งสำเนาคำร้องไปยังโจทก์และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551, จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ถูกกล่าวอ้างในคำร้อง

 

นอกจากนี้ ศาลยังได้ส่งสำเนาคำร้องไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยว่าเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดหรือไม่ อย่างไร โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 6

ศาลกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แจ้งข้อเท็จจริงพร้อมแสดงหลักฐานภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่งศาล

สำหรับคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลนั้น ศาลเห็นว่าเมื่อนายชาญชัยไม่มีสิทธิ์ยื่นคำร้องต่อศาล จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาในประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้ ศาลได้มีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น.

สำหรับนายทักษิณ มีคดีที่ค้างพิจารณาในศาลอาญา คือ คดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องจากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อปี 2558

ส่วนคดีที่ได้มีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญแต่มีคำสั่งไม่รับคำร้อง ประกอบด้วย คดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการล้มล้างการปกครอง โดยมีการร้องเรียนว่าทักษิณและพรรคเพื่อไทยมีพฤติการณ์ดังกล่าว แต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ   

นอกจากนี้ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 และเรื่องนโยบายเงินดิจิตอลวอลเล็ต ที่มีผู้ร้องเรียนว่าเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามกฏหมาย แต่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องด้วย.

  
 

ข่าวล่าสุด

Yindii เปลี่ยนอาหารขายไม่หมด หมุนรายได้คืนธุรกิจ 78 ล้านบาท