ทักษิณลงพื้นที่ชายแดนใต้ รับฟังปัญหาความไม่สงบ จุดเปลี่ยนยุทธศาสตร์ดับไฟ
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
KEY
POINTS
- ทักษิณ เคยมีบทบาทการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเมื่อ20ปีก่อน
- ลงพื้นที่พิจารณาปรับปรุงกรอบยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ฉบับใหม่
- เชื่อมโยงกับการหารือระดับอาเซียน มาเลเซีย-บรูไน
- การนำบางส่วนของ "นโยบาย 66/2523" มาปรับใช้
- ยุทธศาสตร์ฉบับใหม่การเปิดโอกาสให้ผู้เห็นต่างกลับคืนสู่สังคม
หมุดหมายสำคัญของนายทักษิณ ในการลงพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังปัญหาความไม่สงบ และร่วมพิจารณากรอบยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ฉบับใหม่ สอดรับกับก่อนหน้านี้ ที่นายทักษิณ พร้อมนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม เพื่อหารือหลายประเด็นเกี่ยวกับอาเซียน
การลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นไปตามหมายกำหนดการเดิม โดยจะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองทัพภาคที่ 4 ตำรวจภูธรภาค 9 และ ศอ.บต. เพื่อนำข้อมูลมาประกอบการปรับแผนยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาชายแดนใต้ ซึ่งต้องอาศัยการพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายภูมิธรรม ระบุว่า เราต้องรับฟังเสียงของประชาชนและทุกภาคส่วนเพื่อปรับปรุงแผนงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยประเด็นที่ถูกจับตามองคือ ความเป็นไปได้ในการนำหลักการจาก "นโยบาย 66/2523"กลับมาใช้ ซึ่งเป็นแนวทางที่เคยใช้แก้ไขปัญหาคอมมิวนิสต์ในอดีตเปิดทางให้ผู้เห็นต่างกลับคืนสู่สังคมผ่านการเมืองนำการทหาร
นายภูมิธรรม ชี้แจงผ่านสื่อก่อนหน้านี้ ว่า นโยบาย 66/23 เป็นแนวคิดที่มีองค์ประกอบบางส่วนที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่ต้องพิจารณาความเหมาะสมกับบริบทปัจจุบัน การประชุมร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จึงไม่ใช่การลอกแบบมาใช้ทั้งหมด แต่ต้องมีการปรับกลยุทธ์นำมาปรับใช้เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ยุทธศาสตร์ใหม่นี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา สำทับกับนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่าบริบทของยุทธศาสตร์ใหม่เน้นแนวทางการใช้การเมืองนำการทหาร และการสร้างระบบที่ชัดเจนในการดูแลกลุ่มผู้เห็นต่าง ยังไม่มีการนิรโทษกรรม แต่เป็นการสร้างแนวทางให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น และทำให้การดำเนินงานเป็นระบบ
การลงพื้นที่ของทักษิณครั้งนี้ เป็นที่น่าจับตามองว่าจะสามารถมีบทบาทอย่างไรในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ซึ่งมีมาเลเซียเป็นหัวเรือใหญ่ ขณะที่ไฟใต้เป็นปัญหาของไทยที่มาเลเซียมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไข
จากที่นายทักษิณเคยมีบทบาทสำคัญในช่วงที่ปัญหาภาคใต้รุนแรงที่สุดเมื่อ20ปีก่อน อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบ กระทั่งเกิดเหตุระเบิดในบริเวณท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อนการลงพื้นที่
..หรืออาจเป็นเพียงการรับฟังปัญหาเพื่อปรับแนวทางเชิงนโยบาย ยังต้องติดตามกันต่อไป...


