posttoday

น้ำท่วม67: ครม.เคาะเกณฑ์เยียวยาน้ำท่วม บ้านเสียหาย70%จ่าย2.3แสนบาท

17 กันยายน 2567

ครม.เคาะงบกลาง3,045.51 ล้านบาทให้มหาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 57 จังหวัดครอบคลุม 338,391 ครัวเรือน นายกฯอิ๊งค์สั่งลดขั้นตอนความยุ่งยากด้านเอกสาร บ้าน1หลัง เสียหาย 70 เปอร์เซ็นต์รับเยียวยา 2.3แสนบาท ผ่านระบบพร้อมเพย์ หากประสบภัยหลายครั้งจ่ายรอบเดียว

เมื่อวันที่ 17กันยายน 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ด้านประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งนายกฯกำชับกระทรวงต่างๆ ให้ดูว่าสัปดาห์ และสัปดาห์ถัดไป สถานการณ์เรื่องพายุจะเป็นอย่างไร จะได้เตรียมรับมือได้ 

"เช่น ภาคใต้ที่ฝนจะมากขึ้น โดยนายกฯเพิ่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) โดยขอให้เกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมงตลอด 24 ชม."
 

โดยเฉพาะพี่น้องที่ตกค้างในพื้นที่ประสบภัยภาคเหนือตอนบน และภาคอีสานตอนบน ขณะที่หลายกระทรวงได้เสนองบประมาณรวม 3,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับมาตรการเยียวผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนายกฯกำชับเรื่องการลดขั้นตอนทางเอกสาร ที่สมัยก่อนต้องเอาเอกสารไปเสนอ แต่ตอนนี้จะให้ส่วนราชการทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงไปดูและสรุปให้รวดเร็ว ถ้าบ้านเรือนที่เสียหายเกิน 70% จะรับเงินเยียวยา 2.3 แสนบาท 
 
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,045.519 ล้านบาท  เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567   ซึ่งการจ่ายเงินจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีจ่ายเงินช่วยเหลือตามที่ ครม. อนุมัติในวันนี้ด้วยเช่นกัน โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จะเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน ซึ่งทางธนาคารจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีสิทธิโดยตรงผ่านระบบพร้อมเพย์ต่อไป 
 


สำหรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือ จะต้องเป็นอุทกภัยที่เกิดในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 67 ทั้งกรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ ที่อยู่อาศัยนั้นต้องเป็นบ้านอยู่อาศัยเป็นประจำใน อยู่ในพื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย หรือ พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ใน 57 จังหวัด  
 
ส่วนเงื่อนไขนั้นจะต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และ มีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ และ ผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณภัย และผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอและจังหวัด นอกจากนี้ หากเป็นกรณีประสบภัยหลายครั้งจะได้รับความช่วยเหลือครั้งเดียว

การจ่ายเงินช่วยเหลือจะแยกเป็นแต่ละกรณี ดังนี้ 

1.กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือ ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วันให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท

2.กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 7,000 บาท และ 3) กรณีที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 60 วัน ขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 9,000 บาท

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การจ่ายเงินช่วยเหลือครั้งนี้จะทำให้ ครัวเรือนผู้ประสบภัยจำนวน 338,391 ครัวเรือนใน 57 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบ, พื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย, พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง และสามารถดำรงชีวิตเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว 

สำหรับ  57 จังหวัด ได้แก่  จังหวัดกระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นนทบุรี นครนายก นครปฐม นครพนม นครสวรรค์ นครราชสีมา นครศรีธรรมราช น่าน บึงกาฬ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พังงา พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยะลา ระยอง ราชบุรี ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สระแก้ว สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อุทัยธานี อุดรธานี อุตรดิตถ์ และจังหวัดอุบลราชธานี 

"การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยหลังจากนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ กับผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยจังหวัด นายอำเภอกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จัดทำแนวทางการปฏิบัติงานให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ในระดับอำเภอ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบในแต่ละหมู่บ้าน สำรวจข้อมูลรายละเอียดของผู้ประสบภัยรวมทั้งแจ้งผู้ประสบภัยให้ลงทะเบียนพร้อมเพย์ผูกบัญชีธนาคารกับเลขประจำตัวประชาชนให้พร้อมรับการโอนเงินจากธนาคารออมสินให้เรียบร้อยต่อไป" น.ส.ไตรศุลี กล่าว


 
 

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้