''มาดามเดียร์'' ประกาศคว่ำบาตร กก.บห.ประชาธิปัตย์ชุดใหม่
''มาดามเดียร์'' ประกาศคว่ำบาตร กก.บห.ปชป.ชุดใหม่ ยืนยันไม่ลาออก แต่พร้อมทบทวนหากกลับลำร่วมรัฐบาล ย้ำไม่ร้องเรียนตรวจสอบล็อบบี้สกัดชิง หน.พรรค เชื่อสะท้อนความไม่สง่างามของ กก.บห.ชุดใหม่แล้ว
นางสาววทันยา บุนนาค สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงบทบาทของตนเองต่อพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้ว่า ตนเองจะยังคงตั้งมั่น และมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานสิ่งที่เป็นประโยชน์ แก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหาต่อประชาชนต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีตำแหน่งหรืออำนาจใด ๆ โดยจะของดเว้นบทบาท และยุติบทบาทการทำงานกับพรรคฯ แต่จะยังคงเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อทำงานที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป ส่วนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพรรค โดยเฉพาะผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน ตนจะไม่ขอเข้าร่วม
ส่วนการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีที่มีแชทหลุดล็อบบี้สกัดการลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของตนเอง ที่สื่อมวลชนเปิดเผยชื่อของผู้ส่งข้อความดังกล่าวแล้ว และยังเป็น 1 ในคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ด้วย ซึ่งตนเชื่อว่า สังคมจะรับทราบ และเห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า มีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นในการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คนที่ 9 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ตนเองไม่ขอไปร้องเรียนใด ๆ เพิ่มเติม เพราะการเลือกหัวหน้าพรรคฯ ได้ข้อยุติแล้ว พร้อมย้ำว่า ตนเองไม่ศรัทธา ในวิถีการทำงานเมืองในลักษณะดังกล่าว โดยเฉพาะการมีแชทไลน์การล็อบบี้หลุด หรือการกีดกันสกัดกั้นทางการเมือง ที่สะท้อนความไม่เป็นธรรม และเป็นข้อกังขาถึงความสง่างามของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ส่วนสาเหตุที่ไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกทั้งที่สมาชิกรุ่นเก่าตัดสินใจหันหลังให้กับพรรคประชาธิปัตย์นั้น นางสาววทันยา ระบุว่า ระหว่างนี้ ยังขอรอดูทิศทางการทำงานของพรรคให้ชัดเจนกว่านี้ก่อน เพราะยังจะต้องให้ความเป็นธรรมกับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ด้วย แม้จะไม่ได้ศรัทธา และไม่ได้เห็นด้วยกับแนวทางการบริหารของกรรมการบริหารชุดใหม่ แต่จะไม่เร่งผลีผลามตัดสินใจ และจะอดทน ไม่ย่อท้อต่อการทำงานทางการเมือง ดังนั้น จึงไม่เร่งสรุป หรือตัดสินใจใด ๆ และยังตั้งมั่นทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยไม่จำเป็นต้องไปข้องเกี่ยวกับการทำกิจกรรมของพรรค
นางสาววทันยา ยังยอมรับด้วยว่า หากคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่ นำพาพรรคฯ ไปร่วมรัฐบาล ก็จะเป็นจุดทบทวนสำคัญของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เฉพาะตนเองเท่านั้น จะเป็นจุดทบทวนของสมาชิกพรรคทุกคน รวมถึงประชาชนผู้ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด เพราะเชื่อว่า ประชาชนเชื่อมั่นการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยึดมั่นใจอุดมการณ์ และจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ไม่ได้แสวงหาประโยชน์และอำนาจ


