posttoday

"นายกฯ" ลงพื้นที่สระแก้ว ดันท่องเที่ยวเมืองรอง แนะตั้งวันสต็อป เซอร์วิส

25 พฤศจิกายน 2566

เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สระแก้ว หวังดันท่องเที่ยวเมืองรอง เร่งสร้างสะพานมิตรภาพเชื่อมต่อสองประเทศ พร้อมแนะแนวทางวันสต็อป เซอร์วิส

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นตรวจราชการจังหวัดสระแก้ว โดยนายเศรษฐาระบุว่า การลงพื้นที่เมืองรองอย่าง จ.สระแก้ว วันนี้  สส.บอกว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ เราก็อยากสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวมาและอยู่นานขึ้น โดยต้องทำงานควบคู่ในหลายมิติ เราต้องการให้ จ.สระแก้วมีการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเกษตร การท่องเที่ยว การเชื่อมต่อเขตแดนกับกัมพูชา 

จากนั้น นายเศรษฐา และคณะลงพื้นที่  สะพานมิตรภาพไทย – กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) เพื่อติดตามความความคืบหน้าพื้นที่ก่อสร้างอาคาร CIQ ของกรมศุลกากร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยนายเศรษฐา กล่าวถึงการก่อสร้างสะพานข้ามแดน ที่เกิดการล่าช้า ว่า จากการรายงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรทราบว่าผู้รับเหมารายเดิมเกิดการผิดสัญญา จึงทำให้ต้องหาผู้รับเหมารายใหม่ ได้สั่งให้ทางกรมศุลกากรเร่งรัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากสะพานฝั่งกัมพูชาได้จัดทำแล้วเสร็จ แต่ทางฝั่งไทยยังไม่มีความคืบหน้า และกำชับให้ทำการฟ้องร้องผู้รับเหมารายเก่าที่ทำผิดสัญญา กำชับให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เร่งรัดการจัดสร้างสะพานและอาคารจุดผ่านแดนให้แล้วเสร็จพร้อมกันทั้งสองอย่าง เพื่อให้เกิดการใช้งานประสิทธิภาพ

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานถึงปัญหาการเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง ที่มีสัญญาระหว่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ในการบำรุงรักษาสะพานผ่านแดนที่ทางกัมพูชาไม่เรียกเก็บ แต่ทางไทยจะมีการเรียกนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ตนเกรงว่าจะเกิดปัญหาในอนาคต จึงจะมอบให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไปพิจารณาและดูรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว 

จากนั้น นายกฯและคณะเดินทางต่อมาที่ศูนย์ราชการสะดวก บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยนายเศรษฐา รับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าการปฎิบัติงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 

นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายหลักของรัฐบาลต้องการส่งเสริมการค้าขายระหว่างประเทศ อยากให้จ.สระแก้ว เป็นศูนย์วันสต็อปเซอร์วิส เพื่ออำนวยความสะดวก ทั้งการขนส่ง การค้า แต่ยังขาดอุปกรณ์ซอฟต์แวร์ และอื่นๆ ในการดำเนินงาน โดยการขนส่งและการค้าขายที่นี้ปีละกว่า 1 แสนล้านบาท มีปริมาณสูงมาก ดังนั้นไม่ใช่แค่การอำนวยความสะดวกเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ถนน แต่เรื่องซอฟต์แวร์ และวันสต็อปเซอร์วิส เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนข้อเสนอของพื้นที่ ให้ตั้งกงสุลไทย ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา และการทำพาสสปอร์ต ที่บริเวณจุดผ่านแดนนี้ให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ว่ามีแนวคิดเรื่องนี้อย่างไร สามารถทำได้หรือไม่ อะไรที่ทำได้ ให้ทำก่อน เพราะประชาชนเข้าออกบริเวณนี้ปีละกว่า 10 ล้านคน น่าจะมีศูนย์กลางการทำพาสปอร์ตที่นี่ได้ เพื่ออำนวยความสะดวก

จากนั้น นายเศรษฐา ได้เดินเท้าไปบริเวณสะพานมิตรภาพ เพื่อพบกับ นายอุม เรียแตร็ย ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย และได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นความร่วมมือของสองประเทศในความร่วมมือกัน เรื่องการค้าขายเป็นเรื่องสำคัญ การประชุมที่ฝ่ายไทยเอง ได้พยายามที่จะพัฒนาทั้ง ชายแดนกัมพูชาและไทยยกระดับเรื่องการค้าขายให้ดีขึ้น อยากจะฝากผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เรื่องของการเข้าออกและต่างๆนานาที่เกี่ยวกับศุลกากร การตรวจคนเข้าเมืองก็ขอให้ช่วยกันทำให้ดีขึ้นเพื่อความสะดวกในการค้าขาย ขณะที่นายอุม กล่าวว่าได้มีการประชุมกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และได้มอบนโยบายอย่างหนึ่งมาคือ ต่อไปให้เร่งดำเนินการ ชาวไทยที่อยู่ในจังหวัดสระแก้วให้ถือบอร์ดดิ้งพาสไปถึงจังหวัดเสียมเรียบ