"ชัชชาติ" พบ "เศรษฐา" ตั้งคณะทำงาน ’เร่งรัดพัฒนากรุงเทพ’
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย ผลการหารือกับนายกเศรษฐา ตั้งคณะทำงาน ’เร่งรัดพัฒนากรุงเทพ’ แก้ปัญหากทม.แบบไม่ต้องใช้งบประมาณ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่ได้เข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังวานนี้ โดยระบุว่า กรุงเทพเป็นหัวใจของเศรษฐกิจ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆแล้วคือ กทม.ไม่ได้มีอำนาจในการควบคุมทุกอย่าง แต่ต้องประสานงานกับหลายหน่วยงาน
ที่ผ่านมาการประสานงานไม่มีปัญหา แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นหลัก แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ไม่ได้ทำอย่างบูรณาการร่วมกัน ถ้าหากมีคณะทำงานคณะหนึ่งที่ช่วยผลักดันไม่ได้เน้นเรื่องงบประมาณ แต่เน้นการประสานงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วย
จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพ มีทั้งหมด7คน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทั้งนี้ก็เพื่อขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกๆด้าน ในภาพรวมของกทม./เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ที่อาจส่งปลกระทบกับประชาชน รวมถึงประสานความร่วมมือหน่วยงานราชการในพื้นที่
ซึ่งหากเรื่องไหนที่จะต้องหารือก็ให้เชิญคนที่เกี่ยวข้องมาพูดคุย ซึ่งจะเป็นคณะทำงานที่ดูเรื่องยุทธศาสตร์และกรรมการชุดนี้ก็จะมาคอยกำกับดูแลความคืบหน้าต่างๆ ซึ่งถือเป็นรูปแบบของการบริหารจัดการ ทั้งเรื่องการจราจร เรื่องเศรษฐกิจ เช่น การจัดสถานที่หาบเร่แผงลอยที่จะขอขยับที่ไปใช้ที่ของ รฟม. หรือ การทางพิเศษ การรถไฟ ซึ่งหากมีพื้นที่ก็จะช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจได้
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีก็ต้องการจะทำเรื่องเทศกาลฤดูหนาว โดยกทม.จะช่วยจัดงานให้คึกคักในช่วงฤดูหนาวนี้ด้วยเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และมีอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่มากระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้า รวมถึงจะทำให้กรุงเทพเป็นศูนย์กลางของบริษัทข้ามชาติ ซึ่งคณะทำงานชุดนี้จะทำให้เกิดความคล่องตัวในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนมากขึ้น
หลังจากนี้จะรอนายกรัฐมนตรีกลับมาจากต่างประเทศก็จะนัดหารือกันเพื่อเดินหน้าการทำงาน ซึ่งต้องมีการนัดหารือ เพื่อกำหนดเป้าหมาย และกำหนดแนวทางการทำงาน ให้อิสระในการทำงาน และมาตรวจสอบว่าผลเป็นอย่างไร เพื่อให้เห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะเป็นรูปแบบเหมือนกับของเอกชน
ตนยอมรับว่า มีความกังวลใจอย่างเดียวเลยเพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่นายกรัฐมนตรีก็เข้าใจรูปแบบนี้ ซึ่งยืนยันว่า คณะทำงานชุดนี้ไม่เกี่ยวกับงบประมาณ เป็นการประสานกำลังการทำงานร่วมของฝ่ายบริหาร และเมื่อฝ่ายนโยบายเอาด้วยก็จะนำไปสู่การผลักดันระยะยาว นายกสนใจเรื่องจราจร ฝุ่น เศรษฐกิจและการเอาสายสื่อสารลงดิน
นายชัชชาติ มองว่า คณะทำงานชุดนี้ เป็นการทำงานที่น่าตื่นเต้นดี เพราะเป็นอีกรูปแบบที่มีนายกเป็นประธานการทำงาน และมีผู้ว่ากทม.เข้าไปด้วย ซึ่งก็จะต้องเข้าใจรายละเอียด ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการข้ามขั้น เพราะทุกอย่างเป็นนโยบาย
ข้อดีของกทม.คือมีข้อมูลทุกเขต และเมื่อมีข้อมูลจำนวนมาก ก็สามารถผลักดันเชิงยุทธศาสตร์ได้ และจะทำให้เกิดการวัดผลได้ง่ายขึ้น
ส่วนเรื่องภาระหนี้สิ้นรถไฟฟ้าคง ต้องเสนอมหาดไทย O&m เรื่องระบบสัญญาณว่าจะช่วยจ่ายหรือไม่ เพราะสุดท้ายจะจ่ายหรือไม่จ่ายจะต้องผ่านสภากทม. เพราะผู้ว่าไม่มีอำนาจ ทุกอย่างจะต้องผ่านสภา และให้สภาทำการศึกษาและกทม.ปฏิบัติตาม ซึ่งหากไม่ผ่านสภาก็ใช้งบกลางแต่งบไม่พอ