เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์
ผู้ว่าฯเชียงใหม่ นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ประกาศมาตราการป้องกันและลดผลกระทบฝุ่นPM2.5 ให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งทำงานที่บ้าน ส่วนภาคเอกชนขอความร่วมมือ ประชาชนออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศ เมื่อวันที่ 6เม.ย.2566 เรื่อง มาตรการป้องกันและลดผลกระทบกรณีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง
ด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2) ในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา พบว่า มีค่าฝุ่นละอองที่เกินคำามาตรฐาน (อยู่ระหว่าง 112-398 มคก/ลบ.ม) และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
จึงขอให้ปฏิบัติ ดังนี้
ข้อที่ 1 ให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งจัดระบบการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ในส่วนภารกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน และหากจัดประชุมให้พิจารณาประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ข้อที่ 2 ขอความร่วมมือสถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ร้านอาหารพิจารณาให้บริการห้องปรับอากาศเป็นอันดับแรก เพื่อลดสภาวการณ์ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25)
ข้อที่ 3 ขอความร่วมมือให้บริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ พิจารณาอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from Home) หรือทำงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อกิจการของบริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ เพื่อลดการออกนอกเคหสถาน
ข้อที่ 4 หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25) ทุกครั้ง
ข้อที่ 5 ขอให้กลุ่มเปราะบาง (เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว) ลดหรืองดการออกนอกบ้าน
ข้อที่ 6 ให้หน่วยงานของรัฐ พิจารณาเปิดบริการห้องปลอดฝุ่นให้แก่ประชาชน
ข้อที่ 7 ให้ศูนย์พัฒนาเต็กเล็กที่ไม่มีห้องปลอดฝุ่น พิจารณาหยุดการเรียนการสอน
ข้อที่ 8 ให้หน่วยงานภาครัฐที่มีสวนสาธารณะในความดูแล พิจารณาปิดพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการเป็นเวลา 1 วัน ในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน2566 หากสถานการณ์ฝุ่นละออง ยังไม่คลี่คลาย จะได้ออกประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป
เว็บไซต์ “IQAir” รายงานสถานการณ์ ฝุ่น PM2.5 วิกฤต อย่างต่อเนื่อง คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ล่าสุดเช้าวันนี้ คุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองใหญ่ทั่วโลก เมืองที่มีมลพิษ เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (7 เม.ย.) พบว่า
- เชียงใหม่ วัดได้ 324 AQI อยู่ในอันดับ 1 ของโลก อยู่ในระดับ สีม่วงเข้ม คุณภาพอากาศ"อันตราย"
- กรุงเทพมหานคร วัดได้ 98 AQI อยู่ในอันดับ 18 ของโลก อยู่ในระดับ สีเหลือง คุณภาพอากาศ "ปานกลาง"
สำหรับ 10 อันดับโลก PM2.5 เมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ เมื่อเวลา 09.38 น. ตามเวลาประเทศไทย มีดังนี้
- เชียงใหม่, ประเทศไทย วัดได้ 324 AQI
- ลาฮอร์, ปากีสถาน วัดได้ 168 AQI
- เซียงไฮ้, จีน วัดได้ 162 AQI
- ธากา, บังกลาเทศ วัดได้ 159 AQI
- การาจี, ปากีสถาน วัดได้ 157 AQI
- ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วัดได้ 155 AQI
- กาฐมาณฑุ, เนปาล วัดได้ 154 AQI
- โกลกาตา, อินเดีย วัดได้ 152 AQI
- เดลี, อินเดีย วัดได้ 152 AQI
- Astana, คาซัคสถาน วัดได้ 132 AQI
ขณะที่ 10 อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของประเทศไทย PM2.5 แบบเรียลไทม์ เมื่อเวลา 09.38 น. พื้นที่มลพิษ PM2.5 อยู่ในภาคเหนือ สูงสุดอยู่ในระดับสีม่วงเข้ม และ สีม่วงอ่อน "คุณภาพอากาศอันตราย" ดังนี้
- อ.ห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง วัดได้ 435 AQI
- อ.แม่ริม, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 428 AQI
- อ.ปาย, จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 428 AQI
- อ.แม่แจ่ม, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 414 AQI
- อ.เมืองแม่ฮ่องสอน, จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 402 AQI
- อ.สันทราย, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 401 AQI
- อ.เมืองพะเยา, จังหวัดพะเยา วัดได้ 397 AQI
- อ.แม่แตง, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 388 AQI
- อ.ดอยสะเก็ด, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 370 AQI
- อ.เวียงชัย, จังหวัดเชียงราย วัดได้ 360 AQI