posttoday

เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์

07 เมษายน 2566

ผู้ว่าฯเชียงใหม่ นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ประกาศมาตราการป้องกันและลดผลกระทบฝุ่นPM2.5 ให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งทำงานที่บ้าน ส่วนภาคเอกชนขอความร่วมมือ ประชาชนออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกประกาศ เมื่อวันที่ 6เม.ย.2566 เรื่อง มาตรการป้องกันและลดผลกระทบกรณีฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง

ด้วยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2) ในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ผ่านมา พบว่า มีค่าฝุ่นละอองที่เกินคำามาตรฐาน (อยู่ระหว่าง 112-398 มคก/ลบ.ม) และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

เพื่อเป็นการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
จึงขอให้ปฏิบัติ ดังนี้

ข้อที่ 1 ให้หน่วยงานภาครัฐทุกแห่งจัดระบบการทำงานที่บ้าน (Work from Home) ในส่วนภารกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริการประชาชน และหากจัดประชุมให้พิจารณาประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

ข้อที่ 2 ขอความร่วมมือสถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ ร้านอาหารพิจารณาให้บริการห้องปรับอากาศเป็นอันดับแรก เพื่อลดสภาวการณ์ได้รับผลกระทบจากหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25)

ข้อที่ 3 ขอความร่วมมือให้บริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ พิจารณาอนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from Home) หรือทำงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในส่วนที่ไม่กระทบต่อกิจการของบริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ เพื่อลดการออกนอกเคหสถาน

ข้อที่ 4 หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 25) ทุกครั้ง
ข้อที่ 5 ขอให้กลุ่มเปราะบาง (เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว) ลดหรืองดการออกนอกบ้าน
ข้อที่ 6 ให้หน่วยงานของรัฐ พิจารณาเปิดบริการห้องปลอดฝุ่นให้แก่ประชาชน
ข้อที่ 7 ให้ศูนย์พัฒนาเต็กเล็กที่ไม่มีห้องปลอดฝุ่น พิจารณาหยุดการเรียนการสอน
ข้อที่ 8 ให้หน่วยงานภาครัฐที่มีสวนสาธารณะในความดูแล พิจารณาปิดพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ทั้งนี้ ให้ดำเนินการเป็นเวลา 1 วัน ในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน2566 หากสถานการณ์ฝุ่นละออง ยังไม่คลี่คลาย จะได้ออกประกาศให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป

เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์

เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์

เว็บไซต์ “IQAir” รายงานสถานการณ์ ฝุ่น PM2.5 วิกฤต อย่างต่อเนื่อง คุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ล่าสุดเช้าวันนี้ คุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองใหญ่ทั่วโลก เมืองที่มีมลพิษ  เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. วันนี้ (7 เม.ย.) พบว่า

  • เชียงใหม่ วัดได้ 324 AQI อยู่ในอันดับ 1 ของโลก อยู่ในระดับ สีม่วงเข้ม คุณภาพอากาศ"อันตราย"
  • กรุงเทพมหานคร วัดได้ 98 AQI อยู่ในอันดับ 18 ของโลก อยู่ในระดับ สีเหลือง คุณภาพอากาศ "ปานกลาง" เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์

สำหรับ 10 อันดับโลก PM2.5 เมืองใหญ่ที่มีคุณภาพอากาศแย่ เมื่อเวลา 09.38 น. ตามเวลาประเทศไทย มีดังนี้

  1. เชียงใหม่, ประเทศไทย วัดได้ 324 AQI
  2. ลาฮอร์, ปากีสถาน วัดได้ 168 AQI
  3. เซียงไฮ้, จีน วัดได้ 162 AQI
  4. ธากา, บังกลาเทศ วัดได้ 159 AQI
  5. การาจี, ปากีสถาน วัดได้ 157 AQI
  6. ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วัดได้ 155 AQI
  7. กาฐมาณฑุ, เนปาล วัดได้ 154 AQI
  8. โกลกาตา, อินเดีย วัดได้ 152 AQI
  9. เดลี, อินเดีย วัดได้ 152 AQI
  10. Astana, คาซัคสถาน วัดได้ 132 AQI 

เชียงใหม่ฝุ่นPM2.5วิกฤต ผู้ว่าฯสั่ง Work from Home ออกนอกบ้านสวมแมสก์

ขณะที่ 10 อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของประเทศไทย PM2.5 แบบเรียลไทม์ เมื่อเวลา 09.38 น. พื้นที่มลพิษ PM2.5 อยู่ในภาคเหนือ สูงสุดอยู่ในระดับสีม่วงเข้ม และ สีม่วงอ่อน "คุณภาพอากาศอันตราย" ดังนี้

  1. อ.ห้างฉัตร, จังหวัดลำปาง วัดได้ 435 AQI 
  2. อ.แม่ริม, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 428 AQI
  3. อ.ปาย, จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 428 AQI
  4. อ.แม่แจ่ม, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 414 AQI
  5. อ.เมืองแม่ฮ่องสอน, จังหวัดแม่ฮ่องสอน วัดได้ 402 AQI
  6. อ.สันทราย, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 401 AQI
  7. อ.เมืองพะเยา, จังหวัดพะเยา วัดได้ 397 AQI
  8. อ.แม่แตง, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 388 AQI
  9. อ.ดอยสะเก็ด, จังหวัดเชียงใหม่ วัดได้ 370 AQI
  10. อ.เวียงชัย, จังหวัดเชียงราย วัดได้ 360 AQI