posttoday

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปิดคดีทุนจีนสีเทาแจ้งข้อหาม.112

29 มีนาคม 2566

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ดำเนินคดีม.112 แก๊งจีนเทาอ้างบุคคลรับเงินบริจาคเข้าสมาคมกับกลุ่มแก๊งมาเฟียจีน 14K

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมตำรวจชุดคลี่คลายคดีทุนจีนสีเทา แถลงปิดคดี ใหญ่ 2 คดีประกอบด้วย คนจีนแอบอ้างเบื้องสูง หลอกลวงคนจีนด้วยกันเอง กับคดีแก๊ง 14K ตั้งสมาคมเถื่อน
 

คดีแรก เป็นการจับกุม หยู ชินฉี่ เป็นผู้ก่อตั้ง มณฑล ซานซี สมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งชักจูง แนะนำคนจีน เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในไทย อาทิ ธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และจิวเวอรี่ เครื่องประดับ แลกเปลี่ยนเงินตรา โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีฐานะทางการเงิน และต้องการออกไปประกอบธุรกิจต่างประเทศ  ซึ่งจะมีวิธีการชักจูง จะออกจดหมายเชิญเข้าร่วมการสัมมนา การประชุม เข้าชมนิทรรศการต่างๆ โดยจะทำหน้าที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับกลุ่มทุน เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจ

สำหรับพฤติการณ์ที่สร้างความไว้วางใจให้กับกลุ่มคนจีน คือการเข้าร่วมกิจกรรมงานสำคัญระดับชาติของไทย และถ่ายรูปร่วมกับบุคคลสำคัญของไทย อาทิ นายกรัฐมนตรี รอง ผบ.ตร และบุคคลสำคัญอื่นๆ รวมทั้งราชวงศ์ ก่อนนำรูปดังกล่าวไปใช้แอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ที่สำคัญ นายหยู ซินฉี ยังจัดทำนามบัตร และระบุว่าเป็นสมาชิกราชวงศ์กิตติมาศักดิ์ และนำนามบัตร แจกจ่ายให้นักลงทุนชาวจีน จึงแจ้งข้อกล่าวหา  จัดตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต พรบ.คอมพิวเตอร์ นำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเตรียมแจ้งข้อหา ตามมาตรา 112ด้วย

สำหรับนายหยูซินฉี เป็นบุคคลที่ถูกนายชูวิทย์ เปิดโปงพฤติกรรม แอบอ้าง บุคคลสำคัญ หลอกเพื่อนร่วมชาติลงทุนในไทย ก่อนนำหลักฐานส่งมอบให้กับตำรวจ สน.นางเลิ้ง ดำเนินการต่อมา คดีนี้มีการถูกโอนให้ชุดเฉพาะกิจของ รอง ผบ.ตร เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจากการสืบสวนของชุดเฉพาะกิจพบว่าคดีนี้ มีตำรวจ ตม. ร่วมกระทำความผิด ตั้งแต่การช่วยเหลือนายหยู ซินฉี ตั้งแต่การเปิดทางให้ เข้าไทยได้สะดวก ต่อวีซ่า โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องดำเนินการ ขณะนี้ นายหยู ซิน ฉี ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต้องรับโทษที่ไทย ก่อนจะเตรียมผลักดันกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีน 

ทั้งนี้ รอง ผบ.ตร กล่าวอีกว่า หลังจากหารือกับสุสถานเอกอัคราชทูตจีน ทางการจีน เห็นด้วยกับข้อหากับที่ตำรวจไทยแจ้งทักข้อหา พร้อมยื่นคำร้องขอนำตัวผู้ต้องหารายนี้ กลับไปดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจีน 

ส่วนคดีที่สอง เป็นการปิดคดีทลายสมาคมเถื่อนแก๊ง 14K หลอกลวงทรัพย์สิน และหาผลประโยชน์จากคนไทยและคนจีน โดยคดีนี้ รอง ผบ ตร กล่าวว่า ชุดเฉพาะกิจได้สืบสวนพบว่ามีกลุ่มคนจีนจัดตั้งสมาคมเถื่อน ภายใต้ชื่อ สมาคม หง เหมิน โดยสมาคมแรก คือสมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโลก หง เหมิน ซึ่งมีนาย ป๋าย จ้าวฮุย เป็นประธานสมาคม ซึ่งสมาคมดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่ ย่านวังทองหลาง ส่วนสมาคมที่สอง สมาคมพันธมิตร หง เหมืน โลก มีนายวุฒิ แซ่เหลียง เป็นประธานสมาคมประจำสาขาไทย ในพื้นที่บางขุนเทียน 

จากการตรวจสอบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าทั้งสองสมาคม ไม่ได้มีการจัดตั้งสมาคมอย่างถูกต้อง และการตรวจค้น เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบพยานหลักฐานจำนวนมาก จึงออกหมายจับ นายป๋าย จ้าวฮุย เพื่อกำเนอนการตามกฎหมาย แต่นายป๋าย จ้าวฮุย รู่ตัวล่วงหน้าเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้ 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานงานระหว่างทางการไทยและจีน เพื่อทำการตรวจสอบว่า หลบหนีไปอยู่ที่ใดสำหรับ นายป๋าย จ้าวฮุย เป็นบุคคลหนึ่งที่ทางการจีนต้องการตัว กลับไปดำเนินคดี

"ทั้งคดีมณฑลชานซี สมาคมแห่งประเทศไทยของนายหยู ซิน ฉี และสมาคมหงเหมิน ของป๋าย จ้าวฮุย ทั้งสองคดี ไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคดี จีนเทาหลอกจีนเทา และจีนดำหลอกจีนดำ จึงทำให้คดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์  กล่าว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปิดคดีทุนจีนสีเทาแจ้งข้อหาม.112 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปิดคดีทุนจีนสีเทาแจ้งข้อหาม.112 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ปิดคดีทุนจีนสีเทาแจ้งข้อหาม.112