posttoday

"พล.อ.ท.นพ.อนุตตร" เผยโควิดติดเชื้อ3สัปดาห์ เกิน5พัน ตาย74 มีไข้ให้กักตัว

29 พฤศจิกายน 2565

"พล.อ.ท.นพ.อนุตตร" อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ เผยโควิด-19 ระบาดพุ่งต่อเนื่องสัปดาห์ที่3 พบผู้ป่วย2เท่า เกือบ5พันราย เสียชีวิต74ราย แนะมีไข้หวัดให้กักตัว แม้ผลATKขึ้นขีดเดียวก็ต้องตรวจซ้ำ ป้องกันแพร่ระบาดรุนแรง

พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์  โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสถานการณ์โควิด-19ว่า ตอนนี้ดูสถานการณ์ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่รักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาสัก 3 สัปดาห์ ทำให้จำนวนผู้ป่วยรายสัปดาห์ที่เคยต่ำสุด 2 พันกว่าคน ขึ้นมา 2 เท่ากว่า เป็นเกือบ 5 พันราย เฉลี่ยวันละ 700 คน ถ้าคิดคร่าวๆ ว่าตอนนี้ผู้ติดเชื้อต้องรับไว้ในโรงพยาบาลประมาณ 2% แสดงว่ามีผู้ติดเชื้อวันละประมาณ 35,000 คน แต่ถ้าเทียบกับช่วงสูงสุดในเดือนมีนาคมที่มีผู้ป่วยเข้า รพ.สัปดาห์ละเกือบ 2 แสนคน ก็ถือว่ายังน้อยกว่ามาก

ผู้ป่วยปอดอักเสบ และใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าจากที่เคยต่ำสุด ไม่เพิ่มเร็วเหมือนกับจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับที่เคยสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน ตอนนี้มีจำนวนผู้ป่วยอาการหนักอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของที่เคยสูงสุด แต่ก็มีผลทำให้มีผู้เสียชีวิตสัปดาห์ละ 74 ราย แสดงว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตเป็นหลัก 10 อีกแล้ว

ตอนนี้ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตส่วนใหญ่ เป็นกลุ่ม 608 และไม่ได้รับวัคซีนหรือไม่ได้รับเข็มกระตุ้น หรือได้รับเข็มกระตุ้นมาเป็นเวลานาน การรับวัคซีนอาจไม่ช่วยป้องกันการติดเชื้อจากสายพันธ์ใหม่ ๆ ได้ดีนัก แต่ยังคงช่วยลดความรุนแรงและการเสียชีวิตได้ คนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 เข็มสุดท้ายมานานเกิน 4-6 เดือน ภูมิคุ้มกันจะเริ่มต่ำลงมาก จึงควรรับวัคซีนเพิ่มเติมกันครับ

การป้องกันไว้ก่อน ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงที่ชุมชน โดยเฉพาะพื้นที่ระบายอากาศไม่ดี การสวมใส่มาสก์อย่างถูกต้อง รวมทั้งการรักษาสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ถ้ามีอาการไข้ เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก ต้องคิดไว้ก่อนว่าอาจเป็นโควิด-19 ต้องแยกตัวและตรวจ ATK ดู ถ้าขึ้น 2 ขีดก็ต้องกักตัวและรีบรักษา ถึงแม้ขึ้นขีดเดียวก็ความแยกตัวไว้ก่อน และทำ ATK ซ้ำ ถ้าไม่หายใน 2-3 วัน เศรษฐกิจและสังคมยังคงต้องเดินหน้า กิจกรรมต่าง ๆ คงต้องดำเนินการต่อไป แต่การป้องกันและดูแลตัวเองยังคงต้องทำต่อไปเช่นกัน เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดรุนแรงขึ้นกว่านี้จนมีผลกระทบกับระบบการรักษาพยาบาล