รีบคายอำนาจ
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรต้องแยกแยะประเด็นการทำหน้าที่ให้ถ่องแท้ ว่าเรื่องไหนเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคตของประเทศ เรื่องไหนเป็นการชี้นำเพื่อการสืบทอดอำนาจตัวเองให้ยืดยาวนานออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรต้องแยกแยะประเด็นการทำหน้าที่ให้ถ่องแท้ ว่าเรื่องไหนเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคตของประเทศ เรื่องไหนเป็นการชี้นำเพื่อการสืบทอดอำนาจตัวเองให้ยืดยาวนานออกไปเรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม อาจแสดงความเห็นส่วนตัวได้ในทุกเรื่อง แต่ท่าทีสนับสนุนและส่งสัญญาณกดดันให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนดที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ด้วยวิธีการสรรหาทั้งหมดในช่วงเปลี่ยนผ่านระยะเวลา 5 ปี สะท้อนถึงเจตนาการสืบทอดอำนาจมากกว่าความปรารถนาในการส่งต่อประชาธิปไตย เพื่อให้ชาติของเราเดินหน้าไปสู่รูปแบบการปกครองที่ดี
ยิ่งการเปิดทางให้ คสช.สามารถเข้าไปทำหน้าที่สมาชิกวุฒิสภาได้ยิ่งเป็นการแสดงความประสงค์ที่ไม่แตกต่างจากความพยายามแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ หรือ คปป. ที่จุดพลุมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการดึงอดีตผู้นำเหล่าทัพ อดีตข้าราชการระดับสูงเข้ามาทำหน้าที่แทบทั้งสิ้น
หากจินตนาการสมาชิกรัฐสภาฟาก สว.ในสมัยหน้าเต็มไปด้วยนายพลจากกองทัพพาเหรดกันมาทำหน้าที่ ดูแล้วก็คงไม่แตกต่างจากรัฐสภาของประเทศเพื่อนบ้านที่เคยปกครองในระบบเผด็จการทหาร
ฉะนั้นการเปลี่ยนผ่านในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อความขัดแย้งทางการเมืองในครั้งนี้ ควรสร้างระบบให้มาของทั้งสามอำนาจ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ เป็นที่ยอมรับของประชาชน ไม่ใช่นำคณะนายทหาร อดีตข้าราชการมาเป็นเครื่องมือในการประคับประคองอำนาจเพื่อเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง
การเปลี่ยนผ่านในระยะเวลา 5 ปี ต้องนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า มีความเป็นสากล ไม่ใช่ช่วงชิงการสร้างชนชั้นนำใหม่เพื่อเข้ามายึดกุมอำนาจการเมืองการปกครองให้คนเฉพาะกลุ่ม
สมาชิกวุฒิสภามีหน้าที่กลั่นกรองร&O3242;างกฎหมายที่ผ&O3242;านการพิจารณาจากสภาผู&O3243;แทนราษฎร มีหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร รวมถึงการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง จึงต้องมีความเป็นอิสระ มีความเป็นกลางทางการเมือง ไม่ถูกครอบงำจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง โดยเฉพาะจากฝ&O3237;ายบริหารจนไม&O3242;สามารถทําหน&O3243;าที่ได&O3243;อย&O3242;างตรงไปตรงมา
ดังนั้น สมาชิกวุฒิสภาจะมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน จะมาจากการสรรหาจากกลุ่มอาชีพที่หลากหลายก็ตาม ต้องมีความยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่ คสช.ใช้อำนาจชี้นำสรรหามาแต่พรรคพวกฝ่ายตัวเอง เช่น การเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และอื่นๆ ที่ทำหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน
การจะได้ สว.ตรงตามเจตนารมณ์มากน้อยแค่ไหน คงเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญต้องไปกำหนดรายละเอียด โดยเน้นการปรับปรุงวิธีการเลือกตั้งให&O3243;มีหลักประกันว&O3242;าจะได&O3243;วุฒิสภาที่ปลอดจากการแทรกแซงของฝ่ายต่างๆ อย่างแท้จริง
ในเมื่อหัวหน้า คสช.ส่งสัญญาณเดินตามโรดแมป คสช.เองก็ควรปล่อยวางและเปิดทางให้การกำหนดกติกาช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นไปตามครรลองที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ เพื่อให้การเลือกตั้งในปี 2560 ก้าวไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนได้เลือกรัฐบาลที่ตัวเองต้องการ


