ลุ้นหลินฮุ่ยตั้งท้องจริง-เทียม

สพญ.ประจำแพนดาเตรียมจับหลินฮุ่ยอัลตราซาวด์พิสูจน์ท้องจริงหรือเทียมต้นเดือนก.ค.นี้

สพญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนดา โครงการวิจัยและจัดแสดงแพนดาในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า ได้ผ่านพ้น 59 วัน หลังการผสมเทียมให้หลินฮุ่ยแพนดาเพศเมีย ล่าสุดพบว่าฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนของหลินฮุ่ยเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะในช่วงนี้ถือว่าพีค หรือสูงที่สุด ในหลัก 100   เพิ่มขึ้น 20 เท่า แม้พฤติกรรมเหมือนเดิมคือ กินและนอนมากขึ้น แต่น้ำหนักตัวไม่เพิ่ม ทีมวิจัยจึงพยายามใช้เทคนิคอื่นเข้ามาร่วม เพราะการตรวจพฤติกรรมไม่แน่ว่าจะท้องเทียมหรือท้องจริง

"ระยะพี่เลี้ยงนำตัวหลินฮุ่ยเข้ามาฝึกให้คุ้นชินกับเครื่องมืออัลตร้าซาวด์ เช่น นำตัวมานอนให้พี่เลี้ยงนวดเต้านม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนนำเครื่องเข้าไปตรวจ ยืนยันว่าการอัลตร้าซาวด์ไม่มีผลต่อตัวอ่อนขอให้ทุกคนวางใจได้ แต่เครื่องที่ใช้ก็มีข้อจำกัดที่อาจจะไม่พบตัวอ่อนได้ จึงมีโอกาสสูงที่จะตกลูกได้เลย เพราะการวินิจฉัยทำได้ยาก บางกรณีเห็นตัวอ่อนแต่ไม่คลอดก็มี สุดท้ายต้องรอลุ้นเมื่อถึงเวลาคลอดจริง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันลุ้นไปกับทีมงาน"สพญ.กรรณิการ์  กล่าว

สพญ.กรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ในคลีนิคแพนดา ทีมวิจัยเตรียมนำตู้อบ เครื่องมือ และอุปกรณ์สำคัญมาตรวจสอบสภาพ เพื่อรอว่าหากหลินฮุ่ยตกลูกหรือคลอดแบบกระทันหัน ทุกอย่างจะได้พร้อม เพราะค่าเฉลี่ยหากหลินฮุ่ยท้องจริง คงไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้ ทุกคนจะได้เห็นแพนดาตัวน้อย

ด้านนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า ประมาณต้นเดือนหน้าจะเริ่มอัลตร้าซาวด์ได้ โดยนายภิมุข สิมะโรจน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าด้วยตัวเอง ระหว่างนี้ได้ขอให้ทีมวิจัยดูแลหลินฮุ่ยอย่างใกล้ชิดขึ้น เพื่อติดตามพฤติกรรม