อดีตกำนันโต๊ะเด็งรับทราบข้อหาเป็นพยานเท็จ

อดีตกำนัน ต. โต๊ะเด็ง  นำชาวบ้านบุกกองปราบรับทราบข้อหา หลังถูกรองผบ.ตร .แจ้งจับให้การเท็จเป็นพยานคดีกบฎแบ่งแยกดินแดน
 
นายอนุพงศ์ พันธชยางกูร อดีตกำนัน ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พร้อมด้วยชาวบ้านรวม 11 คน และะ นายกมลศักดิ์ ลีวามะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมประจำ จ.นราธิวาส ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมยศ ร่มสน พงส.(สบ3) กก.5 บก.ป. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ตามหมายเรียกในข้อหา แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดทางอาญา แก่พนักงานสอบสวน แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
 
คดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.ได้แจ้งความดำเนินคดีนายอนุพงศ์ กับพวกรวม 14 คน หลังจากทั้งหมดเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อเอาผิดกับ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กับพวก ในข้อหา ร่วมกันกักขังหน่วงเหนียว และทำร้ายร่างกายระหว่างที่ถูกสอบปากคำและเป็นพยานคดีที่พนักงานสอบสวนยื่นฟ้อง นายนัจมุดดิน อูมา อดีตส.ส.นราธิวาส ผู้สมัครส.ส.พรรคมาตุภูมิ และ นายอารีฟ หรือฮาริฟ โซ๊ะโก และพวก เป็นกบฏแบ่งแยกดินแดน ร่วมกันเป็นอั้งยี่สมคบกันเป็นซ่องโจร จากเหตุปล้นปืนที่กองพันพัฒนาที่ 4 จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อเดือนม.ค. 2547 แต่ศาลพิพากษายกฟ้องคดีไปแล้ว ขณะเดียวกัน ทาง ปปช.ก็ได้พิจารณายกคำร้องของนายอนุพงศ์ กับพวก โดยระบุว่าการดำเนินการของ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ ไม่ได้เข้าข่ายกระทำความผิด
 
นายนัจมุดดิน ซึ่งเดินทางมาให้กำลับใจด้วยกล่าวว่า นายอนุพงศ์กับพวก ได้เป็นพยานในคดีที่ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานกบฎแบ่งแยกดินแดน ตามที่พนักงานสอบสวนกล่าวหาแต่กลับคำให้การในคดีทำให้ตนรอดพ้นความผิดในคดีดังกล่าว อย่างไรก็ตามเริ่มมีข่าวลือว่า ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ซึ่งไม่เป็นความจริงข่าวที่ออกมาทำให้ประชาชนใน จ.นราธิวาสสับสนจึงต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบตลอดเวลา