เล่ห์กลแก๊งขโมยเด็กฝันร้ายคุณแม่มือใหม่

นาทีที่ลูกถูกพรากจากอ้อมอกแม่เพราะมีคนขโมยเอาเด็กไปนั้น

ทำให้แม่ใจสลายไม่ใช่น้อย เหตุพรากลูกพรากแม่นี้เกิดบ่อยเหลือเกิน ข่าวเด็กถูกลักพาตัวออกไปจากโรงพยาบาล หรือถูกขโมยต่อหน้าต่อตานั้นเริ่มมีความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ

แก๊งลักเด็กจากที่เคยระบาดอยู่ต่างจังหวัด ตอนนี้ก็เริ่มเข้ามาในกรุงเทพฯ แล้ว ล่าสุดมีการเข้าไปในโรงพยาบาลแล้วอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ระหว่างที่แม่เผลอเข้าห้องน้ำมันก็เข้าไปขโมยเด็กออกมาต่อหน้าต่อตา ดีที่กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้

จากข้อมูลของมูลนิธิกระจกเงาย้อนไป 7 ปีหลังสุดตั้งแต่ปี 2548-2554 พบว่ามีการลักพาตัวเด็กทารกและเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ ทั้งสิ้น 10 ราย และพอจะวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของคนลักพาตัวเด็กได้ว่า เป็นคนที่ต้องการมีลูกเป็นของตัวเอง แต่ไม่สามารถมีบุตรได้ โดยผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นผู้หญิง ซึ่งมีท่าทีปกติและดูเหมือนจะรักเด็กเป็นพิเศษ นอกจากนี้กลุ่มที่ลักพาตัวเด็กทารกยังอาจเป็นผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต มีความต้องการเด็กไปเลี้ยง และตัดสินใจที่จะหาเด็กไปเลี้ยงโดยวิธีการขโมยไปจากพ่อแม่!!!

นอกจากนี้ กลุ่มคนที่แท้งลูกก่อนคลอดไม่นาน ก็อาจจะเป็นผู้ที่ตัดสินใจก่อเหตุลักพาตัวเด็กทารก เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ที่ลูกของตัวเองเสียชีวิตในครรภ์ และตั้งความหวังไว้สูงว่าจะได้เลี้ยงลูก แต่ปรากฏว่าแท้งเสียก่อนจึงลงมือก่อเหตุ โดยผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนมีฐานะ เพราะพฤติการณ์ของผู้กระทำความผิดหลายรายไม่มียานพาหนะส่วนตัว โดยหลังจากการก่อเหตุมักจะโดยสารรถสาธารณะหรือรถรับจ้าง

เด็กที่จะถูกลักพาตัวอาจขึ้นอยู่กับโอกาสของผู้กระทำความผิดและการดูแลเอาใจใส่ในระหว่างเด็กอยู่ในโรงพยาบาล จากสถิติพบว่าเด็กทารก 10 รายที่ถูกลักพาตัวในรอบ 7 ปีมานี้ เป็นเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย โดยมีอายุตั้งแต่ 1 วัน11 เดือน ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กย่อมมีความน่ารักอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นเด็กทุกคนมีความเสี่ยงในการถูกลักพาตัว และที่เกิดเหตุมักเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีคนไข้และญาติคนไข้เข้าออกจำนวนมาก

ถ้าจับประเด็นเฉพาะการลักพาตัวเด็กทารก ไม่นับการซื้อขายเด็กทารกจากแม่ที่ตั้งใจขายลูกในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จะพบว่าสมมติฐานเดิมที่สังคมเคยตั้งกันไว้ว่า การลักพาตัวเด็กทารกในประเทศไทยน่าจะเป็นการค้ามนุษย์ จับเอาเด็กไปตัดแขนตัดขาเพื่อขอทาน ซึ่งไม่เป็นความจริง!!! เพราะเด็กขอทานในประเทศไทยส่วนใหญ่ถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่การลักพาตัวเด็กไทยเพื่อให้ขอทาน เพราะเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านมีเยอะและนำเข้าง่ายกว่าการลักพาตัวตามโรงพยาบาล

เด็กทารก 7 รายจาก 10 รายที่หายตัวไป ถูกคนร้ายลักพาตัวไปจากโรงพยาบาล คำถามคือ ทำไมต้องลักพาเด็กในโรงพยาบาล จากการวิเคราะห์สภาพข้อเท็จจริง และวิธีการลักพาตัวเด็กของผู้กระทำความผิด พบว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่เปิด มีคนเข้านอกออกในจำนวนมาก บุคลากรในสถานพยาบาลมีอย่างจำกัด ทำให้การดูแลด้านความปลอดภัยมีไม่ทั่วถึง

ก่อนการลงมือก่อเหตุลักพาตัวเด็กของผู้กระทำความผิด มีการวางแผนและวิธีการเสมอ ผู้กระทำความผิดจะเข้ามาหาเด็กในรูปแบบที่แตกต่างกัน เช่น การปลอมเป็นบุคลากรทางการแพทย์ อันนี้จะแนบเนียนและตบตาญาติเด็กมากที่สุด จะตบตาเจ้าหน้าที่ในการเดินเข้านอกออกในห้องผู้ป่วยได้โดยง่าย ผู้กระทำความผิดบางคนเดินเข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้งจนเจ้าหน้าที่คุ้นหน้า และคิดว่าเป็นญาติที่มาเฝ้าไข้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล

ในรายล่าสุดที่โรงพยาบาลราชวิถี ยังแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิเด็กอ่อนเพื่อมาช่วยอุ้มเด็กขณะรอตรวจรักษา จะเห็นว่าผู้กระทำความผิดลักพาตัวเด็กในโรงพยาบาล มักปลอมเป็นคนที่อยู่ในโรงพยาบาลอย่างแนบเนียน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ญาติคนไข้ และอาสาสมัครในโรงพยาบาล ซึ่งตบตาผู้เสียหายได้แนบเนียน และญาติแทบไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครคือตัวจริง ตัวปลอม

พ.ต.ท.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ให้ความเห็นว่าพวกที่ขโมยเด็กตามโรงพยาบาลส่วนใหญ่เป็นพวกที่อยากมีลูก กรณีที่ลักเด็กเพื่อเอาไปขายนั้นยังไม่เคยพบ

“เคยรู้ตามข่าวว่ามีการลักเด็กไปขาย แต่ก็ยังไม่เคยเจอ หากเป็นประเทศเพื่อนบ้านนั้นมี คือ คลอดลูกแล้วอยากได้เงินก็ขายเลย แต่ในไทยเองก็มีพวกที่เห็นเพื่อนมีลูกแล้วอยากมีบ้าง หากเป็นชนบทก็มักจะเป็นการลักพาตัวเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย หลอกล่อซื้อขนมหรือพาไปเที่ยว พื้นฐานคนพวกนี้เป็นคนแปลกๆ บ้างก็เป็นโรคจิตชอบมีอะไรกับเด็ก หรือไม่ก็เป็นพวกรักเด็กจริงๆ ตั้งแต่ทำคดีลักพาตัวเด็ก จับได้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเอ็นดูเด็ก รักเด็ก อยากมีลูก เห็นเด็กหน้าตาน่ารักดี” พ.ต.ท.พัฒนชัย บอก

พ.ต.ท.พัฒนชัย บอกว่า เมื่อขโมยเด็กไปแล้วก็ถือว่าต้องคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งหากขโมยแล้วนำไปแสวงหาประโยชน์ก็จะมีความผิดฐานค้ามนุษย์ หากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ว่าจะสมัครใจหรือถูกบังคับก็ถือว่าผิดฐานค้ามนุษย์ทั้งสิ้น

การลักขโมยเด็กทารกไปจากอ้อมอกพ่อแม่นั้นถือเป็นความผิดทั้งทางกฎหมายและศีลธรรม ใจเขาใจเราคงไม่มีใครอยากให้ลูกถูกขโมยไปอยู่กับคนที่ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด