ระดมจนท.สำรวจความเสียหายเรือน้ำตาลล่ม
ประมงระดมเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย จากเหตุเรือน้ำตาลล่ม เสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท
ประมงระดมเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย จากเหตุเรือน้ำตาลล่ม เสียหายเบื้องต้นประมาณ 5 ล้านบาท
นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ เรือบรรทุกน้ำตาลซัดตอม่ออับปางกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหมู่ที่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ขณะนี้ (วันที่ 3 มิ.ย.54) ความเสียหายจากมวลน้ำเสีย ได้ขยายมาถึงบริเวณสะพานนวลฉวี จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ จากการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปลา พบว่า ปลามีอาการลอยหัวขึ้นมาเพราะสภาพน้ำที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำกว่ามาตรฐาน (ออกซิเจนเหลือ 0 – 0.4 / ค่าปกติ 4-9 มิลลิกรัมต่อลิตร) ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่ จ.อ่างทอง เมื่อปี 2550 นั้นในครั้งนี้ยังไม่รุนแรงเท่า
อย่างไรก็ตาม กรมประมงได้ตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อลงไปตรวจสอบแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ที่เกิดเหตุ และได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่นำเรือตรวจออกสำรวจ – ประเมินความเสียหายทรัพยากรสัตว์น้ำ 4 จุด ได้แก่ (1) สะพานนวลฉวี – ปากเกร็ด จ.นนทบุรี (2) วัดหงส์ปทุมมาวาส จ.ปทุมธานี (3) อ.สามโคก จ.ปทุมธานี และทีมสุดท้ายจะออกประเมินคุณภาพน้ำตลอดลำน้ำที่เกิดเหตุ
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ (3 มิ.ย.54 ) ตามรายงานเบื้องต้นที่เกิดขึ้น พบว่า จ.พระนครศรีอยุธยา- อ.บางปะอิน มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 15 ราย เสียหาย 19 กระชัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 400,000 บาท อ.บางไทร มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 7 ราย เสียหาย 57 กระชัง มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,000,000 บาท จ.ปทุมธานี - มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย 2 ราย 6 กระชัง แต่เสียหายเพียง 50 % มูลค่าความเสียหายประมาณ 150,000 บาทจ.นนทบุรี - ไม่มีเกษตรกรได้รับความเสียหาย เนื่องจากการเลี้ยงปลาในกระชังส่วนใหญ่อยู่ในลำคลอง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประสานกรมชลประทานให้ปิดประตูระบายน้ำที่ระบายลงสู่คลองแล้ว
สำหรับการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ วันที่ 27 ก.พ.2552 เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2552 คือ กรณีสัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ และอื่นๆ เช่น ปลาสวยงาม กบ ตะพาบน้ำ เป็นต้น อัตราการให้ความช่วยเหลือ ตารางเมตรละ 257 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร
ทั้งนี้ กรมประมง ขอเตือนให้ผู้เพาะเลี้ยงปลากระชังในแม่น้ำเจ้าพระยา (ที่ยังไม่เกิดความเสียหาย) ตั้งแต่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่อยมาจนถึงปากแม่น้ำ ให้ระวังภัยจากมวลน้ำเสียที่เกิดขึ้น ขอให้ย้ายปลาที่เลี้ยงออกจากบริเวณที่มวลน้ำเสียไหลผ่าน หรือจับปลาที่พร้อมจำหน่ายออกโดยเร็วที่สุด