ทหารเชียงรายจับยาบ้าล็อตใหญ่

ทหารจากกองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย ยึดยาบ้า  900,000 เม็ด,ไอซ์ 25 ก.ก. มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท  คาดเป็นของกลุ่มว้าแดง

เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พร้อม พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง,พ.อ.จิรเดช กมลเพ็ชร ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง,พ.ต.อ.จรัญญิ์ เริงธรรม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย และ ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าว ณ หน่วยเฉพาะกิจการทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง ค่ายเม็งรายมหาราช จงเชียงราย พร้อมนำของกลางยาบ้า 900,000 เม็ด,ไอซ์ 25 ก.ก. พร้อม เป้ 6 ใบ มาแถลงข่าว

โดยก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ทหารม้า หมวดที่ 3 กองร้อยทหารม้าที่ 3 ฉก.ม.2 ได้ข่าวว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ข้ามแม่น้ำสาย ชายแดนไทย-พม่า เข้ามายังฝั่งไทย กระทั่ง ได้ลาดตระเวนไปถึงริมน้ำสาย บ้านสันทราย ต.แม่สาย อ.แม่สาย ใกล้ท่ากำนันไน และ ห่างจาก สะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 มาทางเหนือราว 2 ก.ม. และ ห่างจาก ที่ตั้งของ หมวดทหารม้าที่ 3 กองร้อยทหาร แค่ 500 เมตร พบชาย 6 คน สะพายเป้เดินลัดเลาะป่าข้าวโพดริมน้ำสายมาฝั่งไทย จึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ชายทั้งหมด ได้ทิ้งเป้ และวิ่งหลบหนีเข้าป่าไป คาดว่าจะข้ามน้ำสายที่แคบและตื้นในช่วงนี้ข้ามไปฝั่งเพื่อนบ้าน จึงได้ยึดเป้ทั้งหมดมาตรวจสอบ พบว่า มี ยาบ้ารวมแล้ว 900,000 เม็ด และ ไอซ์ ซ่อนในถุงยา และห่อหุ้มด้วยถุงกันน้ำอีก 25 ก.ก. มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท ถือว่าเป็นล็อตใหญ่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าอาจเป็นของกลุ่มว้าแดง

พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า บริเวณชายแดนด้านนี้ทราบว่ามีแหล่งพักยาบ้าและไอซ์ กว่า 10 แห่ง ซึ่งยาเสพติดล็อตนี้ก็เช่นกัน น่าจะมีการรออยู่ฝั่งตรงข้า เพื่อนำเข้าและน่าจะส่งไปส่วนกลาง ซึ่งการลอบนำยาเสพติดล็อตใหญ่ข้ามแดนบริเวณนี้เพราะลำน้ำสายแคบเหมาะแก่การเดินข้าม ถึงแม้จะใกล้หน่วยทหารม้าไม่เกิน 500 เมตร ก็มีความพยายาม

พ.ต.อ.จรัญญิ์ เริงธรรม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย กล่าวว่า จะตรวจเช็คสารเคมีของยาบ้าและไอซ์ น่าจะทราบกลุ่มผู้ผลิต เพราะปัจจุบันแต่ละกลุ่มมีการใส่สารเคมีผลิตยาเสพติดไม่เหมือนกันเพื่อความแรงของตัวยา และน่าจะสืบหาตัวการ ที่เกี่ยวข้องในประเทศ ซึ่งทาง พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ได้สั่งให้ขยายผลการจับกุมด้วย

นายสุรชัย ลิ้นทอง รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า จากการตับกุมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสายข่าวชาวบ้านในพื้นที่จึงเป็นประโยชน์มาก และต้องขอความร่วมมือต่อไปเพื่อปราบปรามอย่างบูรณาการในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ที่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องทำงานหนักในหลายด้าน แต่ก็ทำงานเต็มที่