ทุนนอกบุกไทย4แสนล.

เมษาฯ เดือนเดียว 1.5 แสนล้าน ชี้เก็งกำไรหนักทุบสถิติรอบ 2 ปี

เงินนอกยังทะลักไทยไม่หยุด 4 เดือน บุกตราสารหนี้ 4 แสนล้านบาทแล้ว

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับยอดลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในปี 2553 ทั้งปี ซึ่งมีมูลค่าแค่ 3 แสนล้านบาท

“เฉพาะเดือน เม.ย. มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้ไทยแล้วกว่า 1.5 แสนล้านบาท สูงสุดในรอบ 2 ปี” สศค.ระบุ

นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบกับการเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารทุน จะพบว่าปริมาณการซื้อขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้สูงกว่าปริมาณการซื้อขายสุทธิสะสมในตลาดทุนเป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีปริมาณการซื้อขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติในตลาดตราสารหนี้ 7.7 แสนล้านบาท

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติในตลาดทุนมีแค่ 1.5 แสนล้านบาท

สศค.ระบุว่า ช่วงเดือนนี้มีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรทั้งสิ้น 5.24 หมื่นล้านบาท และตลาดหลักทรัพย์ทั้งสิ้น 2.65 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในช่วง 29.20-31.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่า 3% การแข็งค่าของเงินบาทจะส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นอย่างต่อเนื่องยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการเก็งกำไรค่าเงินของนักลงทุน

สศค.ประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อขายเก็งกำไรในตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมากขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสหรัฐจะส่งผลให้นักลงทุนมีกำไรที่สูงขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อมีการขายตราสารหนี้และแลกเงินกลับ นอกจากนี้การที่ดอกเบี้ยและผลตอบแทนที่สูงก็เป็นแรงจูงใจ