ไทย-เขมรปะทะอีกแล้ว!
โฆษกทบ. เผยปะทะไทย-กัมพูชา ล่าสุด เป็นจุดเดิม เหตุ กัมพูชา ละเมิดข้อตกลง สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว
โฆษกทบ. เผยปะทะไทย-กัมพูชา ล่าสุด เป็นจุดเดิม เหตุ กัมพูชา ละเมิดข้อตกลง สั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้ว
พ.อ.สรรเสริฐ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึง สถานการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างไทยกัมพูชา กลุ่มปราสาทตาควาย บริเวณอ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เกิดเหตุปะทะกันอีกครั้งระหว่างสองฝ่ายว่า การประทะในเช้านี้คือจุดเดิมที่เกิดปะทะกันเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ การปะทะ ในช่วงแรกมีการใช้อาวุธขนาดเล็ก เป็นปืนเล็ก หลังจากนั้น มีการใช้อาวุธหนัก จรวดอาร์พีจี เครื่องยิงลูกระเบิด อย่างไรก็ตาม มีการสั่งอพยพ ประชาชนในพื้นที่แล้ว
โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และกองกำลังที่ดูแลรับผิดชอบ ว่าอย่าไว้วางใจ ให้ดูแลความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน ทั้งนี้เหตุปะทะที่เกิดขึ้น เป็นลักษณะการยั่วยุ ด้วยการยิง อย่างไรก็ตาม ตามข้อตกลง ระหว่างสองฝ่าย จะไม่มีการดัดแปลงพื้นที่ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของฝ่ายใด แต่ฝ่ายไทย มักจะพบว่า ฝ่ายกัมพูชา มักจะละเมิดข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงต้องประท้วงกัมพูชาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าฝ่ายไทยไม่มีการแจ้งเตือน หรือ ประท้วง จะทำให้เป็นปัญหาลุกลาม กลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานความเสียหาย
ผบช.น.สั่งเข้ม!สถานทูตเขมร
พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงในพื้นที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ใน จ.สุรินทร์ ระหว่างทหารไทย และทหารกัมพูชา นั้น ทาง บช.น. ที่ดูแลสถานทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ได้สั่งการให้ทาง ผบก.น.4 ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มข้นในการดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งสถานที่และบุคคลในสถานทูตแล้ว เนื่องจากอาจจะตกเป็นเป้าหมายของการสร้างสถานการณ์ได้ โดยทาง บก.น.4 มีแผนที่ดูแลสถานทูตกัมพูชา ไว้อยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดความขัดแย้งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในทางการข่าวขณะนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดมาเคลื่อนไหวต่อต้านที่หน้าสถานทูต และไร้ข่าวการสร้างสถานการณ์ แต่ทางตำรวจก็ไม่ประมาท กำชับให้มีการดูแลเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
มทภ.2หวั่นปะทะซ้ำไม่อนุญาตให้ปชช.กลับบ้าน
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า เหตุการณ์การปะทะกัน ระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนในศูนย์อพยพเดินทางกลับเข้าบ้านเรือน โดยจะขอรอดูสถานการณ์อีก 1 วันก่อน เพราะเกรงว่า กัมพูชาจะยิงถล่มเข้ามาอีก หลังเปิดฉากยิงเข้ามาก่อน จนเป็นเหตุให้ทหารไทยเสียชีวิต 4 นาย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานการณ์ได้สงบลง เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตนไม่ทราบสาเหตุการยิงปะทะกันครั้งนี้ เพราะฝ่ายกัมพูชา เป็นฝ่ายยิงเข้ามาก่อน และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีรายงานความผิดปกติแต่อย่างใด แต่เชื่อว่า ทางกัมพูชา มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า เพราะหลังจากเหตุการณ์ปะทะกัน กัมพูชา ก็ได้ทำหนังสือฟ้องไปยัง UN อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนเกิดความเสียหาย เหมือนกับเหตุการณ์บริเวณชายแดน ด้าน จ.ศรีสะเกษ แต่เพื่อความปลอดภัย จึงได้สั่งอพยพประชาชนไว้ก่อน
ด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ ด้าน จ.ศรีสะเกษ ยังปกติดีอยู่ โดยหลังเกิดเหตุยิงปะทะที่ จ.สุรินทร์ ทหารไทย และทหารกัมพูชา ด้านชายแดน จ.ศรีสะเกษ ได้นัดรับประทานอาหาร ประเมินสถานการณ์ร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน และไม่ได้มีการเสริมกำลังแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการไปยังนายอำเภอกันทรลักษ์ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดเหตุปะทะกัน ก็ให้อพยพประชาชนตามแผนที่วางไว้ สำหรับทหารทั้งสองประเทศ หลังเกิดเหตุปะทะเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ได้มีการประสานความสัมพันธ์กันจนเป็นปกติดีแล้ว มีการผลัดกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์
ชาวบ้านชายแดนอพยพวุ่นหนีปะทะ
ชาวบ้านที่หมู่บ้านที่อยู่ใกล้แนวชายแดน ทั้งในอ.พนมดงรัก และอ.กาบเชิง ก็ยังคงอพยบออกจากหมู่บ้านอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากว่าในวันนี้มีเสียงอาวุธหนักตอบโต้กันได้ยินอย่างชัดเจนและหนักขึ้น ทำให้ศูนย์อพยพทั้ง 6 แห่ง ที่จังหวัดได้จัดตั้งขึ้นประกอบด้วยศูนย์อพยพโรงเรียนบ้านโคกกลาง บ้านโนนสมบูรณ์ บ้านโคกโบสถ นิคมสร้างตนเองปราสาท โรงเรียนประสาทวิทยาคารและโรงเรียนโสตศึกษาสุรินทร์ มีชาวบ้านอพยพมาอยู่เพิ่มขึ้นจำนวนมากกว่า 25,000 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องดูแลอำนวยความสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ที่อำเภอกาบเชิง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางอำเภอเตรียมอพยพชาวบ้านใน 5 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 15,000 คน ออกไปอยู่ที่ศูนย์อพยพ 2 แห่ง คือที่โรงเรียนสังขะ อ.สังขะ และที่โรงเรียนบ้านคูตัน เนื่องจากว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจ.สุรินทร์ ในขณะเดียวจาการปะทะกันที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าที่ผ่านมาส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย ทั้งหมดถูกนำตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก และส่งต่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์สุรินทร์


