ไทยปะทะเดือดเขมรทหารตาย-เจ็บ
โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เผย ไทยปะทะเขมร ทำทหารตาย 3 นาย เจ็บ 12 นาย ขณะที่ จ.สุรินทร์ อพยพ ชาวบ้าน กว่า 7,000 คน มาอยู่ในที่ปลอดภัย แล้ว ด้าน กต.ยันไม่เกี่ยวเจบีซี-มรดกโลก
โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เผย ไทยปะทะเขมร ทำทหารตาย 3 นาย เจ็บ 12 นาย ขณะที่ จ.สุรินทร์ อพยพ ชาวบ้าน กว่า 7,000 คน มาอยู่ในที่ปลอดภัย แล้ว ด้าน กต.ยันไม่เกี่ยวเจบีซี-มรดกโลก
พ.อ.ประวิตร หูแก้ว รองเสนาธิการ กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะของทหารไทย-กัมพูชาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ล่าสุดมีรายงานทหารพรานเสียชีวิตแล้ว 3 นาย และบาดเจ็บ 12 นาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. โดยทหารกัมพูชาที่วางกำลังอยู่ติดกับฝ่ายไทยได้เริ่มโจมตีฐานที่ตั้งของทหารไทยที่บริเวณปราสาทตาควาย และลุกลามไปจนถึงปราสาทตาเมือน
ทั้งนี้มีรายงานว่า เหตุการณ์ปะทะได้เริ่มจากปืนเล็กก่อน จนถึงขั้นที่ทหารกัมพูชาใช้ปืนใหญ่ยิงเข้ามาในพื้นที่ฝั่งไทย ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรเสียหาย 1 หลัง ขณะที่ยังมีอีกหลายหลังคาเรือนในบ้านโคกแสลง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่มีกระสุนปืนตกเข้ามา
"ตอนนี้กำลังตรวจสอบความเสียหายว่ามีมากน้อยเพียงใด แต่ไม่มีรายงานว่าประชาชนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต มีแต่ทหารพรานที่เสียชีวิต 3 นาย" พ.อ.ประวิตร กล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้การปะทะกันได้สงบลงแล้วตั้งแต่เวลาประมาณ 10.20 น. แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ซึ่งทางกองทัพอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ พร้อมกับการวางกำลังประจำฐานที่มั่นตลอดเวลา โดยมีแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าไปอำนวยการในพื้นที่ด้วยตัวเอง
สุรินทร์ เร่งอพยพชาวบ้านกว่า 7 พันคน
ด้านนายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดให้ราษฎรเกือบ 7,000 คนในพื้นที่ที่เกิดเหตุปะทะดังกล่าวอพยพชั่วคราวไปอยู่ใน 2 จุด คือ รร.บ้านโคกกลาง มีจำนวนผู้อพยพประมาณ 2,700 คน และอีกจุด คือที่นิคมสร้างตนเอง อ.ปราสาท อีกประมาณ 4,000 คน ซึ่งแม้ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจะสงบลงแล้ว แต่คาดว่าต้องให้ราษฎรได้อาศัยพักค้างคืนอยู่ในที่อพยพนี้ก่อน เพื่อความมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัย ตามที่นายกรัฐมนตรีกำชับว่าต้องดูแลความปลอดภัยของราษฎรอย่างเต็มที่
"ตอนนี้เสียงปืนสงบแล้ว แต่เราคงต้องให้พี่น้องประชาชนพักค้างคืนที่นี่ก่อน คงยังไม่ให้กลับ" รองผู้ว่าฯ จ.สุรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้มีการจัดเตรียมอาหาร ตลอดจนสิ่งของจำเป็นต่างๆ ไว้ให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนรองรับผู้อพยพหลังจากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ที่ จ.ศรีสะเกษ เมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
เแม่ทัพภาคที่ 2 สั่งปิดด่านช่องจอม
พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีทหารกัมพูชา ปะทะทหารไทย ที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย จึงได้มีคำสั่งให้ปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่ เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
กต. เชื่อไม่กระทบเจรจาเจบีซี
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาว่า สาเหตุเบื้องต้นจากรายงานของกองทัพ เกิดจากทหารไทยได้เตือนทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาซึ่งกำหนดเป็นระยะห่างของการวางกำลัง 100 เมตรตามข้อตกลง แต่ทหารกัมพูชาไม่ยอมทำตาม จึงเกิดการปะทะขึ้น มีทหารไทยบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม จะดำเนินการอย่างไรต่อไป และจนถึงขณะนี้ยังมีการปะทะกันอยู่เล็กน้อย
หวังไม่บานปลาย-อ้างไม่เกี่ยวถกมรดกโลก
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานตรวจสอบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางกองทัพ และหวังว่าสถานการณ์จะไม่บานปลาย หรือยืดเยื้อออกไป
ซึ่งที่ผ่านมาทั้งไทยและกัมพูชา พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นมาโดยตลอด และทางการไทยก็ได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนยังไม่ได้ประสานไปยังฝ่ายกัมพูชา เนื่องจากในระดับพื้นมีกลไกการดำเนินการของกองทัพทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการอพยพประชาชนออกนอนพื้นที่นั้น ต้องดูรายละเอียดของสถานการณ์ว่าถึงขั้นรุนแรงหรือไม่ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศฝรั่งเศส ในเดือนมิถุนายนนี้
ล่าสุดมีรายงานว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะแถลงข่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ในเวลา 12.45 น. ที่ห้องประชุมกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ


