ดาบเล่มใหม่ปปช. "นอมินีหนาว-นักการเมืองสะเทือน"
กฎหมายปปช.ฉบับใหม่ ยังได้สร้างเกราะคุ้มครองพยาน เพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้แจ้งเบาะแส โดยเฉพาะข้าราชการอาจได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ....
กฎหมายปปช.ฉบับใหม่ ยังได้สร้างเกราะคุ้มครองพยาน เพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้แจ้งเบาะแส โดยเฉพาะข้าราชการอาจได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ....
โดย....ทีมข่าวการเมือง
นับเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญอีกครั้ง ต่อการปรับปรุงกฎหมายในการเป็นเครื่องมือป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เมื่อล่าสุด(18 เม.ย. 54) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้เผยแพร่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ลงในราชกิจจานุเบกษา โดยมีผลให้ใช้บังคับนับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นตันไป (19 เม.ย. 2554)
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ฉบับใหม่ ได้กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการไต่สวนเจ้าหน้าที่ของรัฐขึ้นใหม่ ประกอบกับ รัฐธรรมนูญยังได้เปลี่ยนแปลงขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในหลายประการไม่ว่าจะเป็น เรื่องการสรรหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. การตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน เป็นต้น
สำหรับเนื้อหาในกฎหมายฉบับใหม่มีหลายมาตราพลิกโฉมการตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ โพสต์ทูเดย์ขอคัดมาเสนอดังนี้
มาตรา 25/1 ให้คณะกรรมการป.ป.ช. เข้าถึงข้อมูลการเงินผู้ถูกกล่าวหาได้
"เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคณะกรรมการป.ป.ช. จะแจ้งให้หน่วยงาน หรือสถาบันการเงินใดดำเนินการจัดให้กรรมการหรืออนุกรรมการไต่สวนเข้าถึง ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกกล่าวหา หรือบุคคลอื่นที่มีหลักฐานเพียงพอว่าเกี่ยวข้องในเรื่องที่กล่าวหา เพื่อประโยชน์ในการไต่สวนข้อเท็จจริงหรือเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของคณะกร รมการป.ป.ช. หรือคณะอนุกรรมการไต่สวน"
มาตรา 32 เป็นการเพิ่มเติมการยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคลอบคลุมการยื่นบัญชีทรัพย์สินที่อยู่ต่างประเทศหรือฝากไว้กับคนอื่นหรือที่เรียกว่า “นอมินี”
"ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการ ทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามที่มีอยู่จริงในวันที่เข้ารับตำแหน่งหรือ วันที่พ้นจากตำแหน่งต่อคณะกรรมการป.ป.ช. ..ให้รวมถึงทรัพย์สินและหนี้สินในต่างประเทศและให้รวมถึงทรัพย์สินที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย"
มาตรา 74/1 เปลี่ยนแปลงการนับอายุความ ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีให้หยุดนับอายุความ
"ในการดำเนินคดี ถ้าผู้ถูกกล่าวหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ"
มาตรา 103/1 เกี่ยวกับความผิดผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นความผิดฐานทุจริต
"บรรดาความผิดที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ (มีผลประโยชน์ทับซ้อน) ให้ถือเป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย"
กฎหมายปปช.ฉบับใหม่ ยังได้สร้างเกราะคุ้มครองพยาน เพิ่มแรงจูงใจให้กับผู้แจ้งเบาะแส โดยเฉพาะข้าราชการอาจได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษ
มาตรา 103/2 ระบุว่า "ในกรณีที่คณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่า คดีใดสมควรจัดให้มีมาตรการคุ้มครองช่วยเหลือแก่ผู้กล่าวหา ผู้เสียหายผู้ทำคำร้อง ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ผู้ให้ถ้อยคำ หรือผู้ที่แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลใดเกี่ยวกับการทุจริตตำแหน่งหน้าที่ .. ให้คณะกรรมการป.ป.ช.แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการคุ้มครองบุคคลดัง กล่าว โดยให้ถือว่าเป็นพยานที่มีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้ม ครองพยานในคดีอาญา"
มาตรา 103/3 "ให้คณะกรรมการป.ป.ช. จัดให้มีเงินสินบน หรืออาจจัดให้มีรางวัลตอบแทนหรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคล ตามมารตา 103/2 วรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี จากจบประมาณตามที่ระเบียบป.ป.ช.กำหนด"
มาตรา 103/4 "ให้กรณีที่บุคคลตามมาตรา 103/2 วรรคหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นว่าการดำเนินการหรือให้ถ้อยคำ หรือแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเป็นประโยชน์ .. ให้คณะกรรมการป.ป.ช.เสนอครม.เพื่อการพิจารณาเลื่อนขั้นเลื่อนเงินเดือน และระดับตำแหน่งให้แก่บุคคลนั้นเป็นกรณีพิเศษ"
มาตรา 103/6 "บุคคลหรือผู้ถูกกล่าวหารายใดซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำ ความผิดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหารายอื่น หากได้ให้ถ้อยคำ หรือเแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลอันเป็นสาระสำคัญในการที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานใน การวินิจฉัยชี้มูลการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐรายอื่นนั้น และคณะกรรมการป.ป.ช.เห็นสมควรจะกันผู้นำไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีก็ได้"
พัฒนาการในการตรวจสอบ จัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น โดยผ่านกลไกทางกฎหมาย ป.ป.ช. ถือเป็นการเพิ่มเขี้ยวเล็บให้กับองค์กรแห่งนี้ อย่างน่าจับตามอง จากนี้ก็เหลือแต่การทำงานของคณะกรรมการว่าเมื่อมีดาบอาญาสิทธิ์เล่มใหม่แล้วจะใช้อย่างถูกที่ถูกทาง เต็มประสิทธิภาพหรือไม่


