5 จังหวัดใต้ระทมจมน้ำ

ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้

ตั้งแต่วันที่ 23-27 มี.ค. ว่า ประสบอุทกภัยฉับพลันและน้ำล้นตลิ่ง 5 จังหวัด จำนวน 34 อำเภอ 168 ตำบล 1,292 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 2.7 หมื่นครัวเรือน 6.2 หมื่นคน ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง และชุมพรเสียชีวิต 3 คน

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า น้ำท่วมครั้งนี้รุนแรงกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา ถนนเสียหายกว่า 300 สาย พื้นที่การเกษตรเสียหายทั้งจังหวัดไม่ต่ำกว่าแสนไร่ ความเสียหายเท่าที่ประเมินได้ขณะนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท

โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมรันเวย์สูงประมาณ 30-50 ซม. จนต้องประกาศงดให้บริการทุกเที่ยวบิน โดยเมื่อน้ำลดลงแล้วจะต้องเข้าไปทำความสะอาดรันเวย์ ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ตรวจสอบพื้นรันเวย์ว่ามีความเสียหายมากน้อยเพียงไร หากไม่เป็นอะไรมาก คาดว่าหลังจากที่น้ำลดประมาณ 3-5 วัน ก็จะสามารถเปิดการบินได้ตามปกติ

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าจระเข้สวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช หลุดออกจากกรง 8 ตัว ชาวบ้านได้แจ้งพบเห็นหลายจุด เช่น หลังสนามบิน ทภ.4 ค่ายวชิราวุธ ใกล้สวนสัตว์เทศบาลหลังโรงเรียนบ้านชะเอียน ต.ปากพูน อ.เมือง และบริเวณชุมชนมะขามชุม ต.ในเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ใช้ปืนลูกดอกออกติดตามไล่ล่าอย่างเร่งด่วน

ด้าน จ.สุราษฎร์ธานี มีหลายอำเภอเป็นพื้นที่รับน้ำจากนครศรีธรรมราช โดยพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มจาก 4 อำเภอ เป็น 11 อำเภอแล้ว ถนนหนทางในสุราษฎร์ธานีเสียหายหลายเส้นทาง อาทิ ทางหลวง 401 สุราษฎร์นครศรีฯ ช่วงหน้าโรงพยาบาลกาญจนดิษฐ์ หน้าวิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี รถทุกชนิดผ่านไม่ได้

ที่บ้านหัวหมาก ต.ช้างขวา ระดับน้ำไหลบ่าท่วมผิวถนนทางหลวง 44 ถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด (กาญจนดิษฐ์-กระบี่) ต้องปิดเส้นทาง 1 ช่องจราจร ที่ อ.วิภาวดี เกิดดินสไลด์ทับบ้านพักเสียหาย 1 หลัง ไม่มีผู้ได้รับอันตราย รวมทั้งเกิดดินสไลด์ทับผิวถนนสายไชยา–พุนพิน หลัก กม.ที่ 43 ด้วย

 

ที่เกาะสมุย เจ้าหน้าที่ได้พบศพของนายโกเมศ สมนึก อายุ 28 ปี ชาว จ.พัทลุง การ์ดบีชของโรงแรมเซนทาราแกรนด์ หาดเฉวง ที่ถูกคลื่นซัดหายไปในทะเลตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. โดยพบศพห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 กม. และจะส่งไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.พัทลุง บ้านเกิดต่อไป

ขณะที่ จ.พัทลุง ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองพัทลุงได้เร่งนำกระสอบทรายมาวางกั้นหน้าร้านค้าบ้านเรือน พร้อมกับอพยพสิ่งของไปไว้ในที่สูงและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าน้ำที่ท่วมหนักรอบนอกเขตเทศบาลจะทะลักเข้าท่วมในเขตเทศบาล

นายวสันต์ กู้เกียรติกูล เกษตรจังหวัดพัทลุง ระบุว่า พื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ได้แก่ อ.เมือง อ.ควนขนุน อ.เขาชัยสน และ อ.บางแก้ว มีที่นาข้าวจำนวน 2.7 หมื่นไร่ จมน้ำเสียหาย นอกจากนี้พื้นที่การเกษตร พืชสวน ผัก และผลไม้กว่า 1 แสนไร่ จมน้ำเช่นกัน

นอกจากนั้น จ.ชุมพร มีพื้นที่ประสบภัย 5 อำเภอ จากทั้งหมด 8 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1.2 หมื่นคน ดินถล่มทับบ้านประชาชนพังเสียหาย ขณะที่ถนนสายหลังสวนระนอง กม.ที่ 54 ถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนให้บริการประชาชนที่จะเดินข้ามไปมาในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนภัยฉบับ 6 เตือนบริเวณภาคใต้ว่ามีฝนชุกหนาแน่น ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะบริเวณ จ.ชุมพร ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล