แผ่นดินไหวพม่าแรงเท่าปรมาณู6ลูก

กรมทรัพยากรธรณีเผย แผ่นดินไหวในพม่า รุนแรงเทียบเท่าได้กับ ปรมาณู 6ลูก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งแตะ 74 รายแล้ว รพ.แม่สายส่งทีมแพทย์ช่วยเหลือ

นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย เปิดเผยว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหว ขนาด 6.7 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่ละติจูด 20.87 องศาเหนือ ลองติจูด 99.91 องศาตะวันออก ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร ห่างจากเมืองเกงตุงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของรัฐฉาน สหภาพพม่า โดยความรุนแรงของแผ่นดินไหวดังกล่าว สามารถเปรียบเทียบกับความรุนแรงของระเบิดปรมาณู 6 ลูก

นอกจากนี้ ยังเกิดอัฟเตอร์ช็อคขนาด 5.0 ริกเตอร์ตามมา อีก 6 ครั้ง ทั้งนี้ สาเหตุของการไหว เป็นผลมาจากการเลื่อนตัวของแนวรอยเลื่อนน้ำมา  ซึ่งวางตัวในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ ระนาบเหลื่อมซ้าย มีความยาว 150 กิโลเมตร อยู่ในสหภาพพม่า ซึ่งยาวต่อเนื่องเข้าไปในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดย วางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนแม่จันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงรายของประเทศไทย

สำหรับ การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ เกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนน้ำมา ซึ่งเป็นแนวรอยเลื่อนอีกแนวหนึ่งของกลุ่มรอยเลื่อนน้ำมาที่เป็นสาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)มาแล้ว เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2550 ที่ผ่านมา   เคยสร้างความเสียหายแก่พระธาตุจอมกิตติ โรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เกิดรอยแตกร้าวเป็นจำนวนมาก

 อย่างไรก็ตาม การสำรวจรอยเลื่อนมีพลังในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน กรมทรัพยากรธรณีได้ทำการศึกษาขั้นรายละเอียด พบว่า กลุ่มรอยเลื่อนแม่จัน     มีความยาว 150 กิโลเมตร แบ่งได้ 18 รอยเลื่อนย่อย สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว     ในอดีตขนาด ตั้งแต่ 5.8-6.8 ริกเตอร์ จากการขุดร่องสำรวจพบว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วในอดีตจำนวน 5 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 1,500 ปีที่ผ่านมา รอบของการเกิดประมาณ 1,000 ปี

นายอดิชาติ สุรินทร์คำ โฆษกกรมทรัพยากรธรณี กล่าวถึงผลกระทบและ ความเสียหายว่า “แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์ ครั้งนี้ นับว่าเป็นแผ่นดินไหวขนาดปานกลาง  ซึ่งในพื้นที่นี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ประชาชนสามารถรับรู้ได้ทั่วทั้งภาคเหนือของประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วน (จังหวัดเลย ชัยภูมิ ขอนแก่น) และประชาชนที่อาศัยอยู่บนอาคารสูงของกรุงเทพฯ รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวในครั้งนี้

พื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะที่ อำเภอเชียงแสน และอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยผนังบ้านล้มทับ นอกจากนั้นยังพบอาคารบ้านเรือน  มีรอยร้าวเกิดขึ้น โบราณสถาน ที่มีการก่อสร้างมานานแล้ว จำนวน 5แห่ง เกิดการหักของยอดเจดีย์บ้าง”

สำหรับพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่สามารถรู้สึกถึงการสั่นไหวในครั้งนี้ เนื่องจากกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ทำให้คลื่นแผ่นดินไหว มีการขยายสัญญาณคลื่น ประมาณ 3-4 เท่า  ส่งผลให้อาคารสูงเกิดการสั่นไหว

รพ.แม่สายส่งทีมแพทย์ช่วยเหลือ

เครือข่ายปฏิบัติงานสตรีไทยใหญ่ (SWAN) เปิดเผยผลสำรวจความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหว 7 ริกเตอร์ในพื้นที่รัฐฉานประเทศพม่า ว่า แผ่นดินไหวที่มีจุดศูนย์กลางที่ บ้านท่าเดื่อ ห่างจากตัวเมืองท่าขี้เหล็กประมาณ 52 กิโลเมตร(ตรงข้ามอ.แม่สาย จงเชียงราย) เกิดอาฟเตอร์ช๊อคตามมา 10 ครั้ง ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ชาวบ้านในพื้นที่หวาดผวาจนไม่ได้หลับนอน และไม่กล้าออกไปไหน  อำเภอท่าเดื่อ ได้รับผลกระทบอย่างมาก คาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 คน บางครอบครัวเสียชีวิตหมดทั้งครัว ที่เมืองโกซึ่งอยู่ใกลกันมีผู้เสียชีวิต 17 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวน ที่ท่าเดื่อ อาคาร 2 ชั้นหลายหลังพังทลาย โรงพยาบาล วัด โบสถ์ บ้านพักอาศัยเสียหาย สะพานท่าเดื่อ ข้ามจากเมืองท่าขี้เหล็ก - เชียงตุงทรุด ไมสามารถใช้ข้ามได้  หมู่บ้านลาหู่ที่ตั้งอยู่ไกลจากท่าเดื่อประมาณ 10 กิโลเสียหาย หลายบ้านพัง และผู้หญิงและเด็กในโบสถ์ เสียชีวิตหลายคน พี่น้องลาหู่ต้องเร่งช่วยเหลือกัน  ผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50-80 คน จากท่าเดื่อ เมืองเลน และหนองยาว (ใกล้บริเวณจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว) ถูกขนมาโดยรถ 4 ล้อขนดิน มาที่โรงพยาบาลเมืองท่าขี้เหล็ก ไม่มีแพทย์และยาเพียงพอต่อจำนวนผู้บาดเจ็บ ต้องให้ผู้ป่วยที่ไม่ได้ป่วยหนักออกเพื่อช่วยผู้บาดเจ็บ 

ขณะเดียวกันทางการพม่า อนุบาตให้รถพยาบาลจากโรงบาลแม่สาย ผ่านจุดผ่านแดน ไปยังโรงบาลท่าขี้เหล็ก  เพื่อให้ความช่วยเหลือ มีการประกาศขอรับโรงศพจากวัดต่างๆในท่าขี้เหล็ก ให้ส่งไปยังท่าเดื่อ

ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในพม่าเพิ่มขึ้นเป็น 74 ราย ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บยังอยู่ที่ 111 ราย