กรุงโตเกียวร้าง

ประชาชนเก็บตัวในบ้านหวั่นรังสีมรณะเพลิงโหมเตา4ฟูกุชิมาต่างชาติแห่อพยพ

วิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นยังไม่สามารถควบคุมได้ รังสีมรณะยังแพร่กระจาย โตเกียวดั่งเมืองร้าง ต่างชาติเผ่นหนีจ้าละหวั่น

ชาวญี่ปุ่นยังคงดำรงชีวิตด้วยความหวาดผวาต่อสารกัมมันตรังสีจากการระเบิดของเตาปฏิกรณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมาที่เกิดอย่างต่อเนื่อง 3 เตา จากจำนวน 6 เตา ล่าสุดได้เกิดไฟไหม้ลุกท่วมเตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยังยอมรับว่าระบบทำความเย็นของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 5 และ 6 ทำงานไม่ปกติ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความร้อนสะสมเพิ่มมากขึ้นจนเกิดอันตราย

ความวิตกกังวลต่อการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี ทำให้กรุงโตเกียวเมืองที่คับคั่งมากที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ห่างจากฟูกุชิมา 206 กิโลเมตร อยู่ในสภาพราวเมืองร้าง ประชาชนต่างเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน โรงเรียนต่างๆ ปิดการเรียนการสอน ขณะที่บริษัทเอกชนอนุญาตให้พนักงานหยุดอยู่กับบ้าน ส่วนที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ คับคั่งไปด้วยชาวต่างชาติที่พากันอพยพออกจากญี่ปุ่นอย่างเร่งด่วน

วิกฤตนิวเคลียร์ตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบว่าระดับของสารกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์ไม่คงที่ โดยบางขณะจะพุ่งขึ้นไปจนถึงระดับอันตราย การรั่วไหลมากที่สุดเกิดขึ้นจากเตาปฏิกรณ์หมายเลข 3 ที่ระเบิดไปแล้ว และสารกัมมันตรังสีรอบโรงงานยังอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นส่งช่างเทคนิค 50 คน กลับเข้าไปในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมาอีกครั้ง หลังสั่งอพยพคนงาน 750 คน ออกจากพื้นที่ก่อนหน้านี้

นายยูกิโอะ เอดาโนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จากการตรวจวัดล่าสุดเมื่อเช้าวันที่ 16 มี.ค. ระดับของสารกัมมันตรังสีได้ปรับลดลงจาก 1,000 มิลลิซีเวิร์ต มาอยู่ที่ 600-800 มิลลิซีเวิร์ต และยังถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตของญี่ปุ่น ทรงแสดงความเป็นห่วงกังวลต่อวิกฤตนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้น พระองค์ได้แต่หวังว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้

นายมาซาโอะ ฮารา นายกเทศมนตรีเมืองโคริยามา กล่าวว่า มีผู้อพยพจากพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้ามาอาศัยสถานพักพิงกว่าหมื่นคน สิ่งที่ผู้อพยพต้องการอย่างเร่งด่วนในตอนนี้ คือ น้ำมัน น้ำ และอาหาร