ญาติใช้เมรุลอย5ชั้นในพิธีพระราชทานเพลิงศพแม่ถ้วน
ครอบครัวหลีกภัยได้ข้อสรุปพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ถ้วน จะใช้เมรุลอย แบบ 5 ยอด 5 ชั้น พร้อมกับขบวนช้าง แห่ศพจากบ้านพักบนถนนวิเศษกุล ไปยังวัดควนวิเศษ
ครอบครัวหลีกภัยได้ข้อสรุปพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ถ้วน จะใช้เมรุลอย แบบ 5 ยอด 5 ชั้น พร้อมกับขบวนช้าง แห่ศพจากบ้านพักบนถนนวิเศษกุล ไปยังวัดควนวิเศษ
นายเจริญ บัวเงิน ผู้ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์วัดคูหาอ.รัตตภูมิ จ.สงขลา กล่าวว่า จากการหารือกับครอบครัวหลีกภัย และ พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้ข้อสรุปถึงพิธีพระราชทานเพลิงศพคุณแม่ถ้วน หลีกภัย ในวันฌาปณกิจศพ คือ วันเสาร์ที่ 12 มี.ค.นี้ โดยจะใช้เมรุลอย แบบ 5 ยอด 5 ชั้น ขนาดกว้าง 15 เมตร สูง 15 เมตร โดยยอดตรงกลาง 1 ยอด จะใช้เป็นที่ตั้งศพของคุณแม่ถ้วน
ทั้งนี้ส่วนอีก 4 ยอดบริวารที่เหลือจะอยู่ใน 4 มุม 4 ทิศ เพื่อให้พระสงฆ์ขึ้นไปนั่งกระทำพิธีทางศาสนา มุมละ 4 รูป อันถือเป็นการสวดส่งวิญญาณให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งแบบของเมรุดังกล่าวนี้ ทางกลุ่มได้ประยุกต์และผสมผสาน มาจากหนังสือทุ่งพระเมรุในงานพระราชพิธี ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ และถอดแบบมาจากการทำถวายรัชกาลที่ 5 ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งเป็นแบบที่มีการใช้มาอย่างยาวนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ แต่มีความแตกต่างตรงที่จะประยุกษ์ให้มีเอกลักษณ์เป็นลายไทยปักษ์ใต้
นายเจริญ กล่าวอีกว่า ทางกลุ่มออมทรัพย์วัดคูหาใน ได้รับการติดต่อจาก ผบก.ภ.จว.ตรัง ซึ่งเป็นชาวจังหวัดสงขลา ให้นำเสนอรูปแบบเมรุลอย เพื่อนำมาใช้ในงานศพของคุณแม่ถ้วน โดยคิดค่าเช่าเป็นเงิน 1.5 แสนบาท และค่าเดินทางอีก 1 หมื่นบาท ซึ่งนอกจากจะมีเมรุลอยแล้ว ยังมีอุปกรณ์ที่ใช้ในบริเวณมลฑลพิธีด้วย รวมไปถึงเต้นท์ โต๊ะ เก้าอี้ แสงสว่าง และการผูกผ้าตามจุดต่างๆ ถือเป็นราคาที่ถูกกว่านำมาจากกรุงเทพฯ ถึง 1 แสนบาท เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่เจ้าภาพภาคใต้
นอกจากนี้แนวคิดของครอบครัวหลีกภัย ที่ต้องการใช้เมรุลอยในพื้นที่ มากกว่าต้องจัดหามาจากภาคอื่น โดยจะมาดำเนินการติดตั้งที่วัดควนวิเศษ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ในวันที่ 9-10 มีนาคม และเช้าวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม ทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์แบม พร้อมที่จะไปใช้ในงานพระราชเพลิงศพวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะมีการนำช้างจำนวนหนึ่ง มาแห่ขบวนศพของคุณแม่ถ้วน จากบ้านพักบนถนนวิเศษกุล ไปยังวัดควนวิเศษด้วย เพื่อแสดงถึงความเป็นเกียรติสูงสุดของผู้ล่วงลับ


