PostTalk EP.3 ภูร์ผา ไทยแท้ เพื่อไทย Next Gen ลุยศึกเลือกตั้ง69
ภูร์ผา ไทยแท้ อดีตนักแสดง ผู็สมัคร สส.กทม. เขต12 พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจเข้าการเมืองหวังอยากเปลี่ยนชีวิตคนผ่านนโยบายจริง เน้นลงพื้นที่ เป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน
KEY
POINTS
- ภูร์ผา ไทยแท้ อดีตนักแสดง ผันตัวลงสมัคร สส. กทม. พรรคเพื่อไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากครอบครัวและเชื่อมั่นในนโยบายที่จับต้องได้ของพรรคไทยรักไทยในอดีต
- ในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ (Next Gen) ต้องการเปลี่ยนภาพลักษณ์นักการเมืองให้เข้าถึงง่าย พร้อมชูนโยบายระบบขนส่งรอง (Feederline) เพื่อเชื่อมต่อกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของพรรค
- สร้างการจดจำผ่านกระแสไวรัลเพื่อช่วยในการลงพื้นที่พบปะประชาชน และนิยามตนเองว่าเป็นนักการเมืองที่ใช้ภาษาเรียบง่ายและมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างจริงจัง
นาย ภูร์ผา ไทยแท้ อดีตนักแสดงที่ผันตัวเข้าสู่เส้นทางการเมืองในฐานะผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัด พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ PostTalk โดยนายภูร์ผา กล่าวถึงสาเหตุที่เข้ามาสู่สนามการเมืองนั้น ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคือ "จังหวะและเวลา" โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุที่งานในวงการบันเทิงเริ่มลดน้อยลง เช่น เมื่ออายุเลยเลข 3ทำให้ตนในฐานะที่เป็นนักแสดงมีโอกาสทบทวนและมองหาเส้นทางใหม่ที่สามารถสร้างประโยชน์ได้ในระยะยาว และอีกสาเหตุหนึ่งคือได้รับแรงบันดาลใจ คนใกล้ชิด เช่นครอบครัวภรรยา ที่คลุกคลีกับการเมืองท้องถิ่น ซึ่งมีส่วนช่วยให้เกิดการซึมซับงานการเมือง รวมถึง "ภาพจำในอดีต"ของตนเกี่ยวกับประเทศไทยในยุคสมัยที่เศรษฐกิจดีและนโยบายของพรรคการเมืองที่สามารถจับต้องได้จริง ของยุค พรรคไทยรักไทย ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้อยากเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคที่ตนเองเชื่อมั่นในศักยภาพการทำงาน และตอนนี้มองว่าเรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องไกลตัวแต่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ซึ่งตนมองว่าการที่เราอยากจะเปลี่ยนอะไรสักอย่างหนึ่งนั้นตนเชื่อว่าการเมืองนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นได้
อีกทั้งตนและภรรยานั้นชอบบริจาคสิ่งของอยู่แล้วเนื่องจากถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็กว่าต้องรู้จักการแบ่งปัน แต่เมื่อทำไปถึงจุดหนึ่งจะพบว่า การบริจาคเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างสังคมหรือแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน จึงตัดสินใจผันตัวมาเป็น "ผู้เล่น" ในสนามการเมือง เพื่อหวังว่าจะสามารถช่วยให้เกิดการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบายที่ส่งผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของคนจำนวนมากได้จริง เพราะหากการเมืองเปลี่ยนการเมืองดี สามารถทำให้ประชาชนมีกินได้ หากคนในชุมชน หรือเด็ก นั้นมีโอกาสที่ดีได้นั้น ก็เป็นโจทย์ที่ตนนั้นอยากที่จะทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ลูกหลานมีคุณภาพชีวิตและสังคมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่
ส่วนในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ (Next Gen)กับเรื่องที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนนั้นตนคิดว่า อยากจะเปลี่ยนมุมมองของคนที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง ในฐานะนักการเมืองรุ่นใหม่ก็อยากที่จะปรับภาพลักษณ์นักการเมืองให้ดีขึ้น เพราะ การเป็นนักการเมืองนั้น ต้องเข้ามาเพื่อเปลี่ยน และต้องมีความเสียสละ ทั้งเวลา รวมถึงหลายๆอย่าง เราเป็นตัวแทนประชาชนเพื่อเข้ามาเป็นกระบอกเสียงในสภาว่าประชาชนนั้นอยากที่จะได้อะไร และสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ทุกวันนี้คือลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านว่ามีปัญหาอะไรบ้างในพื้นที่เพื่อที่ตนนั้นจะสามารถเข้าไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานั้น ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่การเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้นเพราะ ตนโตมาในยุคของ พรรคไทยรักไทย ที่การเมืองโตและรุ่งเรือง และมองว่ามีอยู่เพียงแค่พรรคเดียวที่นโยบายของพรรคสามารถที่จะพัฒนาชีวิตให้กับชาวบ้านและสามารถจับต้องได้จริง ซึ่งมีหลายนโยบายที่พรรคเพื่อไทยนั้นเคยทำและสำเร็จมาแล้ว อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองมีความหวังดีและมีแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่สำหรับตนนั้นเห็นว่าพรรคเพื่อไทยจากลิสต์นโยบายที่เคยทำสำเร็จในอดีตนั้นสามารถทำสำเร็จเยอะมากจึงตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย
นอกจากนี้นายภูร์ผา ยังกล่าวถึง กระแสไวรัลของตัวเองก่อนหน้านี้ที่นายภูร์ผา นั้นเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัด พรรคเพื่อไทยว่าตนยอมรับว่าตนได้มีการวางแผนมาตั้งแต่ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วว่าต้องการให้ผู้คนรู้จักตนเยอะๆเพื่อที่ตนนั้นจะสามารถเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่ใหญ่พอเพื่อสะท้อนปัญหาของประชาชน ซึ่งตนรู้สึกยินดีและดีใจอย่างมากเพราะหากไม่มีกระแสไวรัลในตอนนั้น ตอนนี้ทุกคนก็อาจจะรู้สึกงงอยู่ว่าตนเป็นใครและมาทำไม ซึ่งหลังจากเกิดกระแสไวรัล เมื่อตนได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ก็แทบจะไม่ต้องแนะนำตัวกับประชาชนแล้วในทุกวันนี้ ซึ่งตนก็มองว่าเป็นเองที่ดีที่ชาวบ้านนั้นรู้จักและเข้ามาพูดคุยเพื่อสะท้อนปัญหาในพื้นที่
ส่วนนโยบายที่ตนมองว่าอยากที่จะทำหากได้เข้ามารับตำแหน่งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)นั้นคือนโยบายที่ตอบโจทย์กับปัญหาของประชาชนในพื้นที่ เช่น Feederline ในระดับเขตนี้จะทำงานควบคู่และส่งต่อผู้โดยสารไปยังระบบรถไฟฟ้า ซึ่งสอดรับกับนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ของพรรคเพื่อไทย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน โดยนายภูร์ผาเน้นย้ำว่านโยบายนี้เกิดจากการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหาจริงจากชาวบ้านในชุมชน เช่น ในแขวงท่าแร้ง ทำให้เขาเห็นว่าปัญหาค่าเดินทางส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลายมิติ แม้กระทั่งเรื่องการใช้ชีวิตของเยาวชนในสถานศึกษา ซึ่งนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เปรียบเสมือน "เส้นเลือดใหญ่" ที่พากันเดินทางไปได้ไกล นโยบาย Feederline ที่ตนนั้นให้ความสำคัญก็เปรียบเสมือน "เส้นเลือดฝอย" ที่ต้องมีความสะดวกและราคาถูก เพื่อพาผู้คนจากหน้าบ้านมาส่งถึงเส้นเลือดใหญ่ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและมอบโอกาสที่ดีกว่าให้แก่คนในชุมชนและคนรุ่นหลังต่อไป
ทั้งนี้หากจะให้นิยามคำว่า “ภูร์ผา ไทยแท้” นั้น นายภูร์ผา นิยามว่า ตนเองนั้นไม่ได้โตมากับนักการเมือง ไม่ใช้ภาษาเหมือนนักการเมืองแต่ใช้ภาษาเหมือนชาวบ้านเพื่อสื่อสารเข้าใจง่าย ด้วยความจริงใจไม่ใช้ศัพท์วิชาการ เป็นคนที่เข้าถึงชาวบ้านและทำได้จริงเพื่อชาวบ้าน ตนไม่มีสโกแกนสวยหรูในการใช้หาเสียงและซึ่งตนมองว่าสิ่งนี้สามารถจับต้องได้ และเปลี่ยนแปลงได้จริง
อย่างไรก็ตามสนามเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งถือเป็นสนามแรกของตนก็มองว่าไม่ใช่สนามที่ง่ายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ตนก็เชื่อว่าสำหรับตนนั้นก็ไม่ได้ยาก เพราะตนเข้าหาประชาชนทุกคนและตนรู้ว่าประชาชนอยากได้อะไรเชื่อว่าหากเราทำหน้าที่ของเราเพื่อตอบโจทย์ประชาชนได้ก็เชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ตนนั้นคว้าชัยในศึกสนามเลือกตั้งครั้งนี้


