“พลโทภราดร”ตอบรับแคนดิเดตนายกฯไทยสร้างไทยสู้ศึกเลือกตั้ง69

พรรคไทยสร้างไทยออกแถลงการณ์ยืนยันว่า พลโทภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้ตอบรับด้วยวาจาในการเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นภายในกรอบเวลาไม่เกิน 60 วัน หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร

แถลงการณ์ระบุว่า เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้พรรคไม่สามารถจัดแถลงข่าวเปิดตัวบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีได้ตามกำหนดการเดิม อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา พรรคได้มีการพูดคุยและเรียนเชิญ พลโทภราดร พัฒนถาบุตร อย่างไม่เป็นทางการ และได้รับการตอบรับแล้ว

ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทยจะดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนอย่างเป็นทางการของพรรคต่อไป พร้อมแจ้งให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบว่า พลโทภราดร พัฒนถาบุตร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งอยู่ระหว่างพักรักษาตัวจากอาการเจ็บป่วย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ โพสต์ทูเดย์ ว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้กำลังเผชิญปัญหาหลัก 3 ด้านพร้อมกัน ได้แก่ ปัญหาการทุจริต, ปัญหาความมั่นคง โดยเฉพาะสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา, และ ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างรอบด้าน

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมือง ซึ่งจำเป็นต้องเริ่มจากการเมืองที่สุจริต โปร่งใส และไม่ยอมจำนนต่อการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ

ในส่วนของการเสริมทีมด้านความมั่นคง พรรคได้เชิญ พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เข้ามาร่วมงานทางการเมือง ในตำแหน่ง ประธานยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของพรรค โดยเห็นว่าประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาในอดีตสะท้อนถึงความรู้ ความสามารถ และความเข้าใจต่อปัญหาความมั่นคงของประเทศอย่างรอบด้าน

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยย้ำว่า พลโทภราดรมีแนวคิดสอดคล้องกับพรรคในเรื่องการยกระดับการเมืองคุณภาพ และการร่วมกันสร้างระบบการเมืองที่สุจริตจริงจัง เพื่อ ล้างการทุจริตและขจัดอิทธิพลของผู้ทุจริตออกจากการเมืองไทย อันเป็นเงื่อนไขสำคัญในการแก้ไขวิกฤตประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นนายทหารอาชีพและนักวิเคราะห์ความมั่นคงที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทยมายาวนาน ก่อนก้าวสู่เวทีการเมืองในช่วงหลังเกษียณ เขาเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 14 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 25 และโรงเรียนเสนาธิการทหารบกรุ่นที่ 64 เส้นทางรับราชการเริ่มต้นในกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ก่อนย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านนโยบายความมั่นคงของรัฐโดยตรง

ในสมช. พลโท ภราดร เริ่มงานตั้งแต่ปี 2534 ในตำแหน่งนายทหารประสานภารกิจ ก่อนพัฒนาเส้นทางรับราชการจนขึ้นเป็นรองเลขาธิการสมช. และในปี 2555 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการสมช. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงระดับยุทธศาสตร์ของประเทศ หนึ่งในภารกิจสำคัญคือการบูรณาการแนวทางแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการประสานงานระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือน รวมถึงพัฒนาระบบข่าวกรองและระบบบัญชาการเพื่อรองรับภัยคุกคามรูปแบบใหม่

ตลอดวาระดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมช. เขามีบทบาทเด่นในด้านการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง ทั้งในพื้นที่ความขัดแย้งภาคใต้ รวมถึงโครงการปรับโครงสร้างและยกระดับการบริหารงานของสมช. ให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น แนวทางทำงานที่เน้นการประสานงานอย่างรอบด้านและมุมมองด้านความมั่นคงแบบสมัยใหม่ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายความมั่นคงระดับประเทศ

ภายหลังเกษียณ พลโท ภราดรยังคงเป็นบุคคลสาธารณะที่มีบทบาท ผ่านการให้ความเห็น วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองและความมั่นคงในสื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ ความรู้เชิงลึกจากงานด้านข่าวกรองและโครงสร้างอำนาจรัฐ ทำให้เขากลายเป็นเสียงสำคัญในการอธิบายพลวัตทางการเมือง ความขัดแย้ง และทิศทางความมั่นคงของไทยในอนาคต สะท้อนประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทั้งมิติทหาร ความมั่นคง และการบริหารรัฐสมัยใหม่

ในปัจจุบัน เขาเข้าร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย โดยดำรงตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง นำองค์ความรู้จากประสบการณ์หลายทศวรรษมาปรับใช้ในการออกแบบนโยบายเพื่อแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ เช่น ความมั่นคงดิจิทัล ภัยออนไลน์ ปัญหาชายแดน และระบบบริหารความเสี่ยงของรัฐ ล่าสุดพรรคไทยสร้างไทยได้ประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึง พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนความเชื่อมั่นในบทบาทผู้นำด้านความมั่นคงและประสบการณ์ทางการเมืองของเขาในระดับชาติ

คลิ๊กอ่าน แถลงการณ์พรรคไทยสร้างไทย