กกต.ยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ฟันอาญา 2นายหน้าฮั้วสว.
กกต.ส่งคำร้องศาลฎีกาเอาผิด 2 นายหน้าฮั้วเลือก สว. เสนอเงิน 10 ล้านแลก 80 เสียง พบจัดประชุมลับ–ตั้งเครือข่ายโหวต ใช้ข้อเสนอผลประโยชน์จูงใจผู้มีสิทธิเลือก
KEY
POINTS
- กกต.ยื่นศาลฎีกาเอาผิดอาญา–เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้ถูกกล่าวหา 2 ราย
- พบเสนอเงิน 10 ล้านบาท แลกคะแนนจากผู้มีสิทธิเลือก สว. 80 คน พร้อมประชุมลับวางแผนโหวต
- พยาน–หลักฐานชี้ชัดสมยอมลงคะแนน ขัดรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป. สว. มาตรา 77 (1)
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เพื่อให้พิจารณาลงโทษทางอาญาและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้เกี่ยวข้อง 2 ราย หลังพบพฤติการณ์ร่วมสมคบคิดจัดตั้งเครือข่ายล็อบบี้คะแนนเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมเสนอเงินสูงถึง 10 ล้านบาท เพื่อแลกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือก 80 คน
ผู้ถูกร้องประกอบด้วย
- นายธนาวุฒิ แสงอรุณ ผู้มีสิทธิเลือก สว. ระดับจังหวัดมหาสารคาม
- นายสัจจพงษ์ ภูมิศักดิ์ บุคคลภายนอก ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้เดินสายต่อรองผลประโยชน์
จัดประชุมลับ–เสนอเงินเป็น “กิโล”
จากผลไต่สวนพยานและหลักฐานจำนวนมาก กกต.พบว่า นายธนาวุฒิ มีบทบาทชักชวนผู้มีสิทธิเลือกระดับประเทศเข้าประชุมลับที่โรงแรมปทุมธานี เพลส โดยมีเจตนายอมรับว่าเข้าร่วมเพื่อหวังส่วนแบ่งผลประโยชน์ ขณะพยานยืนยันตรงกันว่าในที่ประชุมมีการพูดถึง “คุณเบิร์ดจะให้เงินเป็นกิโล” พร้อมเปิดทางให้ชวนผู้มีสิทธิเลือกคนอื่นเข้าร่วม
ข้อมูลการเข้าพักโรงแรม ภาพถ่าย และแชตไลน์ ยืนยันว่าการรวมตัวดังกล่าวมีเป้าหมายจัดตั้งเครือข่ายโหวต สว. ภายใต้ชื่อ “กลุ่มอิสระ” และมีการใช้ระบบ AI ช่วยกำหนดหมายเลขลงคะแนน
ข้อเสนอ 10 ล้าน แลกเสียง 80 คน
ส่วน นายสัจจพงษ์ ถูกระบุว่าเป็นตัวกลางสำคัญ นัดผู้มีสิทธิเลือกหลายกลุ่มมารับประทานอาหารที่ร้านนิตยาไก่ย่าง เมืองทองธานี และเสนอเงินคนละ 200,000 บาท รวมถึงเสนอวงเงินก้อนใหญ่กว่า 10 ล้านบาทให้ผู้ร้องรายหนึ่ง ซึ่งควบคุมเสียงในมือ 80 คน
พยาน 3 ปากยืนยันสอดคล้องกันว่า นายสัจจพงษ์เป็นผู้กำหนดแผน–ติดต่อ–เสนอเงินอย่างเป็นระบบ โดยมีแชตไลน์และภาพถ่ายช่วงวันที่ 22–25 มิถุนายน 2567 เป็นหลักฐาน
ขัดรัฐธรรมนูญ–ผิดกฎหมาย สว. มาตรา 77
กกต.วินิจฉัยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการจัดทำ เสนอ หรือสัญญาให้ผลประโยชน์เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนตามที่ตกลงกัน ถือเป็นการสมยอมลงคะแนน ไม่ใช่การเลือกกันเองโดยเสรี อันเป็นหัวใจของการได้มาซึ่ง สว.
การกระทำนี้ขัดต่อ
- รัฐธรรมนูญ มาตรา 107
- พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 11, 33, 62
- และผิดตามมาตรา 77 (1) ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา
โยงว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรคดัง
คำวินิจฉัยยังเปิดเผยว่า นายสัจจพงษ์ เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโนนสะอาด จ.อุดรธานี และปัจจุบันใช้เฟซบุ๊กระบุสถานะเป็นว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 8 อุดรธานี ของพรรคการเมืองใหญ่ พร้อมมีภาพร่วมประชุมกับแกนนำพรรคหลายครั้ง ก่อนถูกเปิดโปงเส้นทางเชื่อมโยงกับขบวนการล็อบบี้ครั้งนี้


