posttoday

“อนุทิน” หารือทูตจีน จับมือปราบแก๊งสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ

17 ตุลาคม 2568

นายกหารือเอกอัครราชทูตจีน ย้ำความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแก๊งสแกมเมอร์ พร้อมแลกเปลี่ยนความเห็นสถานการณ์ชายแดน

KEY

POINTS

  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เพื่อกระชับความร่วมมือทวิภาคี
  • ประเด็นสำคัญในการหารือคือการเน้นย้ำความร่วมมือเพื่อปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเสียหายต่อประชาชน
  • ทั้งสองฝ่ายยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ต้อนรับ นายจาง เจี้ยนเว่ย์ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือทวิภาคีในทุกมิติ

 

ย้ำร่วมมือปราบปรามสแกมเมอร์และอาชญากรรมข้ามชาติ

 

ในด้านความมั่นคง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไทยให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและกลุ่มสแกมเมอร์ในภูมิภาค ซึ่งสร้างความเสียหายต่อประชาชน โดยได้ยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมือกับทางการจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจัง

 

เอกอัครราชทูตจีนเห็นพ้องและพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยในทุกมิติ โดยยินดีจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานไทย เพื่อป้องกัน ปราบปราม และยับยั้งปัญหาดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพ

 

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน  โดยพร้อมร่วมมือในกรอบอาเซียนเพื่อสร้างความเข้าใจและรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยยึดมั่นในหลักสันติวิธีและจะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ

 

ขณะที่เอกอัครราชทูตจีนกล่าวว่า จีนมีท่าทีที่เป็นกลางต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยสนับสนุนให้ทั้งสองประเทศใช้กลไกที่มีอยู่แล้วในการเจรจาแก้ไขปัญหาอย่างสันติ เพื่อรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาค

“อนุทิน” หารือทูตจีน จับมือปราบแก๊งสแกมเมอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ

 

ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจและโลจิสติกส์

 

นอกจากประเด็นความมั่นคงแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังหารือเพื่อผลักดันความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เช่น

 

โครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์: เห็นพ้องว่าการเชื่อมโยงระบบคมนาคมระหว่างไทย–จีน–ลาว จะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

 

อุตสาหกรรมสมัยใหม่: จีนพร้อมสนับสนุนไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว พลังงานใหม่ และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า

 

การส่งออกสินค้าเกษตร: จีนให้ความสำคัญต่อการนำเข้าสินค้าเกษตรคุณภาพสูงจากไทย โดยเฉพาะข้าวและผลไม้

 

นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับจีนจะเติบโตในทุกมิติและเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และนวัตกรรมในภูมิภาค

 

ข่าวล่าสุด

LH Bank ออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก “LHB OPD SAVER”