“อภิสิทธิ์” รีเทิร์น? เดิมพันครั้งใหญ่พรรคประชาธิปัตย์
ผลโพลชี้ประชาชนยังเชื่อมั่น “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นนำทาบทามกลับนั่งหัวหน้าพรรค ปชป. สัญญาณการเมืองและแรงกดดันภายใน อาจเป็นจุดเปลี่ยนฟื้นหรือร่วง
KEY
POINTS
- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีคะแนนนิยมสูงสุดจากผลสำรวจนิด้าโพลให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำพรรคยืนยันว่ามีการทาบทามให้กลับมาจริง
- การพบปะกับนายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่านายอภิสิทธิ์ยังคงมีบทบาทและสายสัมพันธ์ทางการเมือง ซึ่งอาจเพิ่มอำนาจต่อรองให้พรรคได้
- การกลับมาของนายอภิสิทธิ์ถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะสามารถพลิกฟื้นศรัทธาจากประชาชนและแก้ไขวิกฤตผู้นำของพรรคได้หรือไม่
ชื่อของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หลังปรากฏทั้งผลสำรวจความคิดเห็นที่ชี้ว่าเขายังเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจประชาชน และสัญญาณทางการเมืองจากการพบปะกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน
เมื่อประกอบเข้ากับการยืนยันของแกนนำประชาธิปัตย์ที่มีการ “ทาบทาม” จริง คำถามใหญ่จึงเกิดขึ้นว่า ความเป็นไปได้ของการกลับมานำพรรค ปชป. ของอภิสิทธิ์มีมากน้อยเพียงใด และจะหมายถึงทิศทางใหม่ของพรรคที่กำลังอยู่ในภาวะเปราะบางทางการเมืองหรือไม่
สัญญาณจากโพล: ความนิยมยังไม่เลือนหาย
ผลสำรวจ นิด้าโพล เรื่อง “ประชาธิปัตย์ ผลัดใบอีกแล้ว” เมื่อวันที่ 15–16 กันยายน 2568 สะท้อนว่า ประชาชน 32.90% ต้องการให้อภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สูงที่สุดเมื่อเทียบกับบุคคลอื่น รองลงมาคือ นายชวน หลีกภัย (18.09%) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (8.17%) นายกรณ์ จาติกวณิช (4.20%) นางวทันยา บุนนาค (2.82%) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (2.21%)
อย่างไรก็ตาม หากถามต่อถึงแนวโน้มการเลือกพรรคประชาธิปัตย์หากได้ผู้นำตามที่แนะนำ ผลกลับสะท้อนความไม่มั่นใจชัดเจน โดยมีผู้ตอบว่า ไม่แน่ใจ ถึง 37.58% เลือกแน่นอน 35.75% และไม่เลือกแน่นอน 26.67% ตัวเลขนี้สะท้อนว่า แม้ “อภิสิทธิ์” ยังเป็นชื่อที่แข็งแรง แต่ศรัทธาที่เคยมั่นคงของประชาชนต่อพรรคยังไม่กลับคืนเต็มร้อย
มื้อเที่ยง “อนุทิน–อภิสิทธิ์”: ภาพสะท้อนทางการเมือง
ความสนใจเพิ่มมากขึ้นเมื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ภาพร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายอภิสิทธิ์ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความระบุว่า ได้รับ “คำแนะนำที่มีคุณค่า” จากอดีตนายกฯ
ภาพดังกล่าวถูกตีความในสองมิติ
หนึ่ง อภิสิทธิ์ยังคงมีสถานะเป็น ที่ปรึกษาทางความคิด ที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยเองก็ยังหันไปขอคำแนะนำ
สอง เป็นสัญญาณว่า อภิสิทธิ์ยังคง มีบทบาทในเกมการเมือง ไม่ใช่เพียงอดีตผู้นำที่หลุดจากวงโคจร แต่ยังคงมีพื้นที่เชื่อมโยงกับทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ความเคลื่นไหวในปชป. การทาบทามอภิสิทธิ์
นายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป. ออกมายืนยันว่า มีการทาบทามอภิสิทธิ์จริง แต่ ไม่มีการต่อรองตำแหน่งเลขาธิการพรรค ตามที่มีกระแสข่าว ทั้งหมดเป็นเพียงการพูดคุยและให้เกียรติอดีตหัวหน้าพรรคที่ยังคงมีสถานะเป็นบุคคลต้นแบบทางการเมือง
ชัยชนะย้ำว่า อภิสิทธิ์เป็นคนที่มีความสามารถ เคยนำพรรคชนะการเลือกตั้ง และยังมีคุณสมบัติด้านความซื่อสัตย์ รักษาสัจจะคำพูด ซึ่งทำให้เหมาะสมหากจะกลับมานำพรรคอีกครั้ง ที่สำคัญ เขายังคงเป็นบุคคลที่สมาชิกพรรคหลายกลุ่มเคารพและไว้ใจ
วิเคราะห์ความเป็นไปได้
แรงสนับสนุนจากฐานเสียง
แม้คะแนนโพลสะท้อนว่าอภิสิทธิ์ยังคงเป็น “ตัวเลือกที่ดีที่สุด” แต่ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ความลังเลของประชาชนจำนวนมากคือโจทย์ที่ต้องแก้ หากเขากลับมาจริง
การยอมรับจากภายในพรรค
อภิสิทธิ์มีจุดแข็งตรงที่สามารถเชื่อมโยงทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ของพรรค แต่ก็ต้องจับตาว่า จะสามารถสานต่อความร่วมมือกับบุคคลรุ่นใหม่ได้หรือไม่ เพราะการรีแบรนด์พรรคต้องอาศัยพลังของคนรุ่นใหม่ควบคู่
สมการการเมืองนอกพรรค
การพบปะกับนายอนุทินสะท้อนว่า อภิสิทธิ์อาจทำหน้าที่เป็น “สะพานเชื่อม” ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคการเมืองอื่น ๆ หากกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค จะทำให้ปชป. มีโอกาสต่อรองในสมการรัฐบาล–ฝ่ายค้านมากขึ้น
ความท้าทายด้านภาพลักษณ์
แม้ภาพลักษณ์ด้านความซื่อสัตย์ยังแข็งแรง แต่คำถามคือ อภิสิทธิ์จะสามารถนำพาพรรคที่ศรัทธาประชาชนลดลงและการเมืองเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กลับมามีบทบาทนำได้หรือไม่
แนวโน้มข้างหน้า: ฟื้นหรือร่วง
หากที่ประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ในเดือนตุลาคม 2568 เปิดทางให้อภิสิทธิ์กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคจริง จะถือเป็น การรีแบรนด์ครั้งใหญ่ ที่อาจปลุกพลังเงียบของฐานเสียงดั้งเดิม และฟื้นบทบาทพรรคในฐานะพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ยังมีน้ำหนักในสมการอำนาจ
แต่หากไม่เกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องเผชิญ วิกฤต “สูญญากาศผู้นำ” และเสี่ยงจะถูกกลืนโดยพรรคการเมืองรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การกลับมาของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ใช่เพียงการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่เป็น เดิมพันครั้งสำคัญ ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะสามารถพลิกฟื้นศรัทธาประชาชน และกลับมาเป็น “พรรคใหญ่” บนเวทีการเมืองไทยยุคหลังปี 2568 ได้หรือไม่ หากอภิสิทธิ์ตัดสินใจก้าวกลับมา เส้นทางข้างหน้าย่อมเต็มไปด้วยทั้งโอกาสและความท้าทายที่ยากจะคาดเดา


