"ดร.ณัฏฐ์"เปรียบMOAประชาชนสัญญาทาสเสี่ยงถูกยุบพรรคการเมือง

ดร.ณัฏฐ์ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ออกมาแสดงความเห็นโต้แย้งนายจุลพงศ์ อยู่เกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กรณี “MOA” หรือบันทึกข้อตกลงที่พรรคผลักดัน โดยระบุว่าเป็น “สัญญาทาส” ไม่ใช่สัญญาประชาคม เพราะประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ มีเพียงพรรคที่ได้ผลตอบแทนฝ่ายเดียว

"สัญญาประชาคม ตามหลักรัฐศาสตร์ หมายถึงการที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์ร่วมกันจากข้อตกลงทางการเมือง ขณะที่ สัญญาทาส หมายถึงการที่กลุ่มการเมืองใดกลุ่มหนึ่งกอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเอง โดยละเลยสิทธิของประชาชน ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง" ดร.ณัฏฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ ดร.ณัฏฐ์ยังชี้ว่า MOA ข้อ 2 และข้อ 3 มีเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะคำวินิจฉัยที่ 4/2564 และบทบัญญัติมาตรา 256(จ) ที่ระบุชัดว่า ประชาชนไม่สามารถเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้โดยตรง ทั้งนี้ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุดและมีผลผูกพันทุกองค์กร ตามมาตรา 211 วรรคท้าย

ดร.ณัฏฐ์ เตือนด้วยว่า หากนายจุลพงศ์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการร่าง MOA พรรคประชาชนอาจเสี่ยงเผชิญการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีโอกาสถูกยุบพรรคอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ออกมาโต้ดร.ณัฐวุฒิ หลังยื่นคำร้องให้ยุบพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย พร้อมถอดถอน ส.ส.รวม 212 คน กรณี MOA ชี้เป็นการเข้าใจกฎหมายคลาดเคลื่อน ระบุ MOA เป็นเพียงการแสดงเจตจำนงทางการเมือง ไม่ใช่นิติกรรมเอกชนที่ฟ้องบังคับได้ หากฝ่ายใดผิดสัญญา ใช้ได้แค่กลไกในสภาฯ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเห็นว่า เป็นเรื่อง“เพ้อเจ้อ”เหมาะเป็นเพียงกรณีศึกษาในห้องเรียนกฎหมาย ไม่ใช่ข้ออ้างยุบพรรคการเมือง