กกต.ชี้แพทองธารพ้นนายกฯไม่มีผลผูกพันตำแหน่งหัวหน้าเพื่อไทย
เลขาฯ กกต. ชี้คดีศาลรธน.ชี้ผิดจริยธรรม ยังไม่ทำให้น.ส.แพทองธารพ้นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องรอศาลฎีกาชี้ขาดหรือกก.บห.มีมติ
KEY
POINTS
- กกต. ชี้ว่าการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่มีผลผูกพันให้ต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยโดยอัตโนมัติ
- การสิ้นสุดตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะเกิดขึ้นได้จาก 2 กรณี คือ คณะกรรมการบริหารพรรคมีมติขับออก หรือศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาให้สิ้นสมาชิกภาพ
- กฎหมายได้แยกกระบวนการพิจารณาการพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีออกจากสถานะสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่ง กกต. ไม่สามารถก้าวก่ายกิจการภายในพรรคได้
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น ยังไม่เข้าเกณฑ์ทำให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นผลจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ซึ่งจะสิ้นสุดได้ 2 ทาง คือ กก.บห.มีมติขับออก หรือศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาให้สิ้นสมาชิกภาพ
นายแสวง กล่าวว่า แม้สังคมอาจมองว่าเมื่อพ้นตำแหน่งนายกฯ แล้วควรพ้นหัวหน้าพรรคไปด้วย แต่กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า กกต.ไม่สามารถก้าวก่ายกิจการภายในพรรคได้ ต้องเป็นอำนาจของ กก.บห.หรือกระบวนการตามศาลฎีกาฯ เท่านั้น
ทั้งนี้ นายแสวงย้ำว่า แม้รัฐธรรมนูญเขียนไว้เกี่ยวกับจริยธรรมที่เป็นเหตุให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ไม่ผูกพันกับสถานะสมาชิกพรรคการเมืองโดยตรง ต้องแยกกระบวนการพิจารณาออกจากกัน
นายแสวง เปรียบเทียบว่า คล้ายกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่แม้ศาลชี้ว่าลักษณะต้องห้าม แต่ยังคงทำหน้าที่ได้จนกว่าศาลฎีกาฯ จะมีคำวินิจฉัยเด็ดขาด หรือจนกว่ากก.บห.พรรคจะมีมติอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านี้ เมื่อ10ก.ย.68 พรรคเพื่อไทยมีการประชุมพรรค ซึ่งนางสาวแพทองธาร เข้าประชุมด้วยตนเอง หลังประชุม มีการประกาศพร้อมเลือกตั้ง เตรียมความพร้อมสรรหาผู้สมัคร สส.คาดครบ 400 เขต ภายในกลางเดือนหน้านี้


