เปิดตัว"ศุภจี" นั่ง รมว.พาณิชย์ "อนุทิน" ย้ำเดินหน้าแผนเศรษฐกิจ

วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 14.45 น. ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
 

หลังการหารือ นายอนุทินเปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นการวางแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยนายเอกนิติและนางศุภจีได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อกำหนดทิศทางที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การทำงานของรัฐบาลจะต้องมุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก โดยเชื่อมั่นในความสามารถของทีมงานที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง

นายอนุทินยังกล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหาปากท้องและความทุกข์ของประชาชนคือเรื่องสำคัญที่สุด และย้ำว่า การบริหารประเทศไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องร่วมมือกันของทุกภาคส่วน โดยประชาชนจะเป็นผู้ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เพื่อให้มั่นใจว่าการตัดสินใจทุกอย่างไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชน

สุดท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน พร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของทีมงานตราบเท่าที่สิ่งที่ทำไปเกิดประโยชน์สูงสุด"

เปิดประวัติ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” ผู้หญิงแกร่งที่ก้าวผ่าน 3 อุตสาหกรรมใหญ่

ชีวิตการทำงานของ “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” หรือ “แต๋ม” สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสามารถที่ไม่ธรรมดา ตลอด 36 ปีในวงการอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่ไอที ดาวเทียม และท่องเที่ยว-บริการ ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยี (Disruption) อย่างหนัก

จุดเริ่มต้นการศึกษา
ศุภจีเรียนจบจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา และศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทรอป สหรัฐฯ

เส้นทางอาชีพ
ก่อนที่จะก้าวมานั่งเก้าอี้ CEO ของกลุ่มดุสิตธานีในปี 2559 ศุภจีได้สะสมประสบการณ์จากการทำงานในต่างประเทศ โดยเคยเป็นคนไทยคนแรกที่ก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IBM ในสหรัฐฯ ทำงานในองค์กรไอบีเอ็มถึง 23 ปี ก่อนจะย้ายไปสู่ตำแหน่ง CEO ของ ไทยคม บริษัทดาวเทียมชั้นนำของไทย

การเข้ามาบริหารดุสิตธานี
ในปี 2559 ศุภจีรับตำแหน่ง CEO ของกลุ่ม ดุสิตธานี ซึ่งก่อตั้งมาแล้ว 77 ปี จากการเป็นคนนอกตระกูลและคนนอกอุตสาหกรรม เธอเริ่มวางกลยุทธ์ใหม่เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาให้ดุสิตธานีเติบโตอย่างหลากหลาย จากการพึ่งพารายได้จากธุรกิจโรงแรมมาเป็นการกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ เช่น การศึกษา อาหาร และอสังหาริมทรัพย์

โครงการใหญ่ “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค”
ในช่วงปี 2568 ศุภจีจะเห็นความสำเร็จของโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค มูลค่า 46,000 ล้านบาท ที่เป็นการร่วมทุนระหว่างดุสิตธานีกับเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งมีทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า และสวนลอยฟ้า

ความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงภายในครอบครัวดุสิตธานี
ช่วงหนึ่ง ศุภจีต้องเผชิญกับความท้าทายจากความขัดแย้งภายในครอบครัวดุสิตธานี ระหว่างทายาทรุ่นที่สองและรุ่นที่สาม ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสำคัญในการบริหารและการควบคุมบริษัท

การมาถึงของโอกาสใหม่ในวงการการเมือง
ในช่วงเวลานี้ที่ศุภจีกำลังเผชิญความท้าทายภายในบริษัท นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ทาบทามให้ศุภจีมานั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายให้เธอเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาที่กำลังจะยุบสภา

ด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางในหลายอุตสาหกรรมและการบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ จึงกลายเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สามารถปรับตัวและสร้างความสำเร็จได้ในทุกสถานการณ์ ทั้งในโลกธุรกิจและการเมือง